วิจารณ์สนั่นหลังมีคลิปพนักงานสาวกรวยอาหารกองโตลงขยะ  มีออเดอร์เพียบแต่ขาด Rider ในการส่ง 

    วิจารณ์สนั่นหลังมีคลิปพนักงานสาว เมื่อวันที่ 30 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์คลิปวีดีโอคลิปนึงซึ่งเป็นคลิปของพนักงานสาวรายหนึ่งที่ทำงานร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าพนักงานสาวคนดังกล่าวกำลังนำวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารเทลงไปในถุงซึ่งเป็นถุงสำหรับใส่ขยะ

       โดยในคลิปได้มีการเขียนเพิ่มเติมกำกับไว้ด้วยว่าสาเหตุที่พนักงานรายนี้ต้องมีการนำวัตถุดิบต่างๆทิ้งลงขยะเนื่องจากว่าในวันดังกล่าวนั้นเป็นวันที่มีลูกค้ามาสั่งออเดอร์ที่ร้านฟาสต์ฟู้ดนี้เป็นจำนวนมากเรียกได้ว่า Order ล้นเลยก็ว่าได้แต่ไม่สามารถที่จะทำ Order ส่งให้กับลูกค้าได้เนื่องจากว่าไม่มีพนักงานส่งอาหาร Rider ไม่มีมาทำงานทำให้ออเดอร์ที่จัดเตรียมไว้ให้กับลูกค้าจำเป็นที่จะต้องมีการนำไปทิ้ง

       อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวนั้นตรงกับเทศกาลวันตรุษจีนนอกจากนี้ในวันดังกล่าวสภาพอากาศไม่ค่อยดีเนื่องจากว่ามีฝนตกทำให้อากาศชื้นและอากาศค่อนข้างหนาวเป็นอย่างมาก ดังนั้นพนักงานRiderส่วนใหญ่จึงหยุดทำงานเพราะเป็นวันหยุดเทศกาลใหญ่ มีพนักงาน Rider แค่เพียงบางส่วนเท่านั้นที่ออกมาทำงานจึงทำให้การส่งสินค้านั้นไม่เพียงพอกับปริมาณลูกค้าที่มีการสั่งออเดอร์ 

     ดังนั้นภาพที่เห็นจึงเป็นภาพที่พนักงานต้องนำออเดอร์ที่มีการจัดเตรียมเอาไว้  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย    แต่ไม่สามารถส่งให้กับลูกค้าได้ทิ้งใส่ขยะนั่นเองซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งอาหารและเครื่องดื่มเป็นจำนวนมากที่ถูกนำไปทิ้งซึ่งภาพนี้สร้างความเสียดายให้กับชาวโซเชียลเป็นอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับคลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปที่เกิดขึ้นในประเทศไต้หวัน

         เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมากและหลายคนต่างรู้สึกเสียดายอาหารที่ถูกนำไปทิ้งซึ่งมีชาวโซเชียลหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเมื่ออาหารทำเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถที่จะส่งให้กับลูกค้าได้พนักงานควรจะแบ่งปันให้กับคนยากไร้สามารถนำอาหารเหล่านี้ไปบริจาคได้แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนบางกลุ่มนั้นแนะนำว่าควรจะเก็บอาหารนั้นเอาไว้ไม่ควรจะนำไปทิ้ง  

        อย่างไรก็ตามได้มีคนออกมาตอบแสดงความคิดเห็นแทนร้านฟาสต์ฟู้ดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าโดยปกติแล้วร้านอาหารฟาสฟู้ดถ้าหากว่าวัตถุดิบเหลือจะมีการทิ้งวันต่อวันจะไม่มีการเก็บเอาไว้ซึ่งเป็นกฎระเบียบของทางบริษัทเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของอาหาร

      อย่างไรก็ตามสำหรับคลิปที่มีการแชร์กันจนเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โตในครั้งนี้ผู้ที่นำไปเผยแพร่นั้นเป็นพนักงานRiderรายหนึ่งซึ่งมารอส่งอาหารที่ร้านฟาสต์ฟู้ดและรู้ว่ามีออเดอร์เหลืออีกมากแต่เขาไม่สามารถที่จะทำการรับออเดอร์ซ้ำซ้อนได้ต้องส่งทีละ Order จึงรู้สึกเสียดายกับอาหารที่ถูกนำไปทิ้งจึงได้มีการถ่ายรูปแล้วนำไปโพสต์ในโซเชียลนั้นเอง

เจ้าบ่าวซ้ำใจ โดนเจ้าสาวเทงานแต่ง  

เจ้าบ่าววัย 24 ปี  ได้พบรักกับหญิงสาวทาง TIKTOK ทักจีบตามประสาวัยรุ่น หญิงสาวอายุ 25 ปี   ทั้งคู่ก็ได้ตกลงคบหาดูใจกันมาได้  8 เดือน 

เจ้าบ่าวซ้ำใจ โดนเจ้าสาวเทงานแต่ง   จากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมาได้สักพักทางหญิงสาวก็ท้อง  ทางฝ่ายชายก็ดีใจที่จะมีลูกแล้ว จึงได้คุยกันถึงว่าต้องจัดงานแต่งงาน  ทั้งคู่ก็ได้มีไปถ่ายพรีวิดดิ้งทุกอย่าง  กำหนดงานจะมีขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคม 2565   แต่พอถึงวันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต  ทำให้ฝ่ายเจ้าบ่าว งง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่เกิดทำให้ฝ่ายเจ้าบ่าวกุมขมับ มาทราบเรื่องทั้งหมดหลังจากวิวาห์ล่ม  เจ้าสาวตัวแสบโกหกเรื่องทั้งหมด ทั้งบอกว่าพ่อแม่ เสียชีวิตหมดแล้ว  ตัวเขาเองเป็นลูกบุญธรรม ของผู้ใหญ่บ้าน  ทางเจ้าบ่าวก็ไม่ได้ติดใจอะไร ทางแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็รู้จักกับทางผู้ใหญ่บ้านท่านนี้ เพราะเคยคุย  ได้พูดคุยผ่านเฟสบุ๊คอยู่  ทางแม่เจ้าบ่าวก็กำลังจะยกขันหมากไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน

ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้าสาว แต่พอจะไป มีข้อความจากผู้ใหญ่บ้านทักมาบอกว่าทางเจ้าสาวยังไม่พร้อม  ขอเลื่อนไปก่อน แต่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวคือเตรียมความพร้อมหมดแล้ว เสียเงินไปหลายบาท แล้วการเลื่อนงานแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีการเลื่อนหลายครั้งแล้ว   เจ้าสาวหาข้ออ้างมาตลอด  จนมาครั้งล่าสุดนี้ไม่ทนแล้ว

  จึงดำเนินการแจ้งความฝ่ายเจ้าสาว  และเรียกร้องค่าเสียหาย จำนวน 200,000 บาท   ทำให้เสียชื่อเสียง อาย  คนทั้งหมู่บ้านและญาติพี่น้อง   มาทราบภายหลังจากที่วิวาห์ล่มว่าฝ่ายเจ้าสาวบอกไม่พร้อมไม่ได้บอก พ่อ กับ แม่ ของตน มาบอกตอนเยนของวันที่ 12 สิงหาคม 2565  ซึ่งวันรุ่งขึ้นฝ่ายเจ้าบ่าวจะยกขบวนขันมากมาทางแม่เจ้าสาวจึงขอให้ฝ่ายเจ้าบ่าวเลื่อนออกไปอีก 2 วัน  ขอเวลาจัดสถานที่หน่อยเพื่อทำพิธีมงคลให้กับทั้งคู่  ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอม  บอกโดนเลื่อนมาตลอด

  แม่ฝ่ายเจ้าสาวจึงแจ้งกับทาง พ่อแม่ เจ้าบ่าวว่าไม่ทราบมาก่อนว่าลูกสาวมีแฟน  เพราะทุกครั้งที่ลูกไม่อยู่บ้านบอกไปนอนบ้านเพื่อน  และตัวลูกสาวเองก็มีลูกมาแล้ว 1 คน  ทางแม่เจ้าสาวก็เป็นคนเลี้ยงดูหลานอยู่  แต่พอมาทราบเรื่องทำให้ งง ไปกันใหญ่จนเรื่องใหญ่โตเป็นข่าว  ถามกลับฝ่ายชายทำไมไม่มาสู่ขอละ

  ไม่เห็นจะมีมาคุยกันก่อน  ทางพ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวจึงแจ้งไปว่าได้พูดคุยกับทางผู้ใหญ่บ้านและเมียผู้ใหญ่บ้านตลอด   แต่ซึ่งจริงๆ แล้ว ผู้ใหญ่บ้านไม่ทราบเรื่อง โดนเจ้าสาวเอารูปและชื่อไปแอบอ้าง และปลอมเสียงเพื่อพูดคุยเรื่องทั้งหมด   ยิ่งทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจหนักไปกว่าเดิม  เจ้าสาวโกหก ทุกเรื่อง  สร้างเรื่องเองทั้งหมด   จึงเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมด

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

แต่งงานได้เพียง 15 วัน สามีโหดเคืองเมียสาวปากระเป๋าเงินใส่หน้า ใช้ปืนยิงดับ

           เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2559  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีหญิงสาวอายุ 19 ปี เสียชีวิตในบ้านพักของตัวที่หมู่บ้าน แสนสำราญ 

โดยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศรีษะตายคาที่  โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่  อำเภอ  นาทม จังหวัด นครพนม 

        สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบศพผู้เสียชีวิตนอนตายในชุดนอน ในห้องนอนของตัวเอง ส่วนผู้ก่อเหตุก็อยู่ในสถานที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ก็คือ สามีของผู้ตายนั่นเอง  จากคำให้การของผู้ก่อเหตุและยังเป็นสามีของคนตายด้วยนั้นมีการระบุว่า

พวกเขาทั้งคู่เพิ่งแต่งานกันได้ประมาณเพียงแค่ ครึ้งเดือนเท่านั้นเอง  การก่อเหตุฆ่าเมียตายในครั้งนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเพราะความโกรธ

       คนร้ายให้ข้พ้นจากการเป็นทหารแล้ว ยังไม่ได้มีงานทำ ทำเพียงช่วยภรรยาค้าขายเท่านั้น   เงิอมูลว่า ภรรยาของเขามีอาชีพเป็นแม่ค้าขายของ  ส่วนตัวคนร้ายนั้นเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน และตอนนี้ก็นส่วนใหญ่ภรรยาจึงเป็นคนเก็บ และหากสามีต้องการเงินไปใช้จา่ยก็จะต้องขอจากภรรยา

ซึ่งบางครั้งก็มักจะมีปากเสียงกันเพราะเรื่องภรรยาให้เงินใช้น้อย และภรรยามักบ่นเรื่องที่ตนเองใช้เงินเยอะ โดยนำเงินไปซื้อเหล้ากิน 

    สามีโหดเคืองเมียสาวปากระเป๋าเงิน  ในวันเกิดเหตุนั้นเกิดขึ้น เมื่อคนร้ายได้ขอเงินภรรยาไปซื้อกับข้าว และภรรยากับบ่นและให้เงินมาเพียงแค่ 40 บาทเท่านั้น และเมื่อขอเพิ่มจึงมีปากเสียงกัน ด้วยอารมณ์โมโหทำให้ผู้ตาย ปากระเป๋าเงินใส่และกระเป๋าเงินมาโดนทีใบหน้าคนร้าย ทำให้คนร้ายโมโห แต่ก็ทำเพียงหยิบเงินจากกระเป๋าเงินไป 300-400 บาทแล้วนำไปซื้อเหล้ากิน 

          อย่างไรก็ตามหลังจากกินเหล้าจนเมา แล้วกลับมาถึงบ้านต้องเจอกับภรรยาที่คอยรอเพื่อบ่นเรื่องการเอาเงินไป อีกรอบ ทำให้ครั้งนี้คนร้ายฟิวขาด เพราะเกิดจากอารมณ์โมโหค้างและยังเมาด้วยจึงได้ ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ของตัวเองยิงไปที่ภรรยาหนึ่งนัด ปรากฎว่ากระสุนโดนที่หัวของภรรยา ตายทันที ด้วยความตกใจจึงได้หลบหนีจนมีคนมาพบศพของภรรยา 

     อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว หลังจากที่หลบหนีไปไม่นาน แต่ทางด้านญาติพี่น้องและเพื่อนของผู้เสียชีวิตยังคงมีอาการโกรธแค้นจะเห็นได้จากเฟสบุ๊คของเพื่อนของผู้ตาย พากันสาปแช่งคนร้าย

      สำหรับคดีนี้สามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์ให้คู่รักหลายคู่ได้ดี ทีเดียว เพราะขนาดเพิ่งแต่งานกันยังไม่ถึงเดือนทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นก็ฆ๋ากันตายได้ ดังนั้นหากจะคิดแต่งงานกับใครต้องดูนิสัยใจคอกันให้นานๆอย่างรีบร้อนแต่งงาน

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

เจ้าสาวตายระหว่างพิธี แต่งานแต่งยังดำเนินต่อเพราะจับน้องเข้าพิธีแทน

         เป็นเรื่องราวที่สำหรับสังคมไทยแล้ว เราไม่เคยเห็นและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่เรื่องราวนี้กลับมีเกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักข่าวในประเทศอินเดียเกี่ยวกับพิธีแต่งงานที่ทำให้หลายคนรู้สึกงงเป็นอย่างมากและมีอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกันโดยการรายงานข่าวนั้นระบุว่าเมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   ที่หมู่บ้านสมาสปูร์  ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของรัฐอุตตรประเทศ  โดยรัฐนี้นั้นจะอยู่ทางด้านฝั่งทางทิศตะวันตกของประเทศ 

         และข่าวที่ทำให้คนหลายคนรู้สึกงงและประหลาดใจรวมถึงรู้สึกช็อคกับข่าวนี้นั่นก็คือเมื่อหมู่บ้านแห่งนี้นั้นได้มีการจัดงานแต่งงานเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งโดยระหว่างที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกำลังทำพิธีแต่งงานกันอยู่นั้นซึ่งในขณะนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนของการแลกเปลี่ยนพวงมาลัยระหว่างคู่บ่าวสาวกันอยู่ปรากฏว่าอยู่ดีๆเจ้าสาวก็เกิดเป็นลมหมดสติท่ามกลางความตกใจของคนที่มาร่วมงาน

       ครอบครัวของบ่าวสาวได้มีการเชิญนายแพทย์มาที่งานทันทีเพื่อทำการตรวจรักษาอาการของเจ้าสาวและเมื่อนายแพทย์เดินทางมาถึงและทำการตรวจร่างกายของเจ้าสาวที่หมดสติตรงนั้นปรากฏว่านายแพทย์ยืนยันว่าเจ้าสาวได้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลวแบบเฉียบพลัน

         อย่างไรก็ตามท่ามกลางความการตกตะลึงของคนที่มาร่วมงาน  และอาจจะเป็นท่ามกลางความเสียใจของฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแต่ปรากฏว่างานแต่งงานกับไม่ได้มีการถูกยกเลิกเมื่อนายแพทย์สันนิษฐานว่าเจ้าสาวเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วครอบครัวของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้หันมาปรึกษากันว่างานแต่งงานจะทำการไปอย่างไรซึ่งบทสรุปท้ายที่สุดแล้วปรากฏว่าพวกเขาได้ขนล่างของเจ้าสาวที่เสียชีวิตแล้วไปเก็บไว้ที่อีกห้องหนึ่งโดยไม่มีการนำไปทำพิธีทางศาสนาและงานแต่งงานนั้นก็ยังคงดำเนินการต่อด้วยมีการประกาศให้คนในงานนั้นยังคงร่วมงานกันตามปกติซึ่งเจ้าสาวที่ถูกนำมาแทนที่เจ้าสาวที่เสียชีวิตนั้นก็เป็นน้องสาวของอดีตเจ้าสาวนั่นเองและงานแต่งงานนั้นก็ดำเนินไปจนพิธีการสิ้นสุด

       สำหรับการแต่งงานในครั้งนี้ท้ายที่สุดแล้วก็ประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีท่ามกลางการแต่งงานที่มีร่างของอดีตเจ้าสาวนอนเสียชีวิตอยู่อีกห้องหนึ่ง    สำหรับการจัดงานแต่งงานแบบนี้คงมีที่ประเทศอินเดียนี้หรืออาจจะเป็นที่บ้านนี้บ้านเดียวเพราะถ้าเป็นสังคมไทยถ้าเจ้าสาวเสียชีวิตก็คงจะยุติการจัดงานและดำเนินการจัดพิธีศพแทนมากกว่าที่จะหาเจ้าสาวมาแทนเหมือนกับที่ครอบครัวนี้ทำกัน

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ใต้หวันหละหลวมหลังคุมไวรัสได้ดี

โควิด-19เป็นสิ่งที่ประมาทไม่ได้การ์ดตกมันกลับมาทันทีเรามีตัวอย่างมาให้ดูกันด้วยทั้งสิงคโปร์และใต้หวันถ้าหากว่าย้อนกลับไปในช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ดูเหมือนจะทำได้ค่อยข้างดีในการรับมือในการระบาดของโควิด-19ช่วงกลางเดือนพฤษคมเจอเดือนปราบเซียนเข้าไปเกิดการระบาดทั้งสองประเทศแล้วดินแดนเลยเกิดอะไรขึ้น

เรียกว่าเป็นประเทศแล้วก็ดินแดนที่ก่อนหน้านี้ได้รับคำชื่นชมมากว่าสามารถรับมือกับโควิด-19ได้โดยเฉพาะใต้หวันไม่เจอผู้ติดเชื้อในดินแดนนานพอสมควรเลยทีเดียวแต่ปรากฎว่าทั้งสองก็คือใต้หวันและสิงคโปร์มาเจอเดือนพฤษภาคมเรียกว่าเป็นเดือนปราบเซียนจริงๆเพราะว่าเกิดการระบาดของโควิด-19ในชุมชนเพิ่มมากขึ้น

สำหรับสิงคโปร์เจอการระบาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราวเกือบ250คนส่วนใต้หวัดหนักหน่อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็๕อระยะเวลา7วันเจอเข้าไปมากกว่า1,200คนดูเป็นตัวเลขแล้วไม่น่าจะเป็นการระบาดที่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศไม่ใช่มาตรฐานของโลกแน่นอนแต่สำหรับสิงคโปร์แล้วก็ใต้หวันที่เคยควบคุมการระบบาดได้จนตัวเลขมันไปถึงศูนย์หรือไม่เกินแค่หลักสิบแค่นั้นเองอันนี้เขามองว่ามันคือวกฤตแล้ว

ซึ่งคำถามก็คือมันเกิดจากอะไรเราจะไล่เรียงให้ดูเริ่มจากใต้หวัดกก่อนถามว่าใต้หวันเกิดอะไรขึ้นยอนกลับไปเมื่อช่วงต้นปีที่แล้วใต้หวันเรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งแรกๆเลยที่มีการประกาศมาตรการคุมเข้มของโควิด-19ที่เข้มงวดมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

เพราะว่าเดินหน้าปิดพรมแดนทั้งทีจากที่มีรายงานการระบาดของเชื้อไวรัสปริศนาที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เขาปิดพรมแดนไม่รับชาวต่างชาติทันทีเพราะฉะนั้นการคุมเข้มของพรมแดนถือว่าเป็นการสะกัดกั้นการระบาดของเชื้อไวรัสได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวและจนถึงทุกวันนี้ใต้หวัดยังคงปิดพรมแดนของเขาอยู่ไม่ให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกันอยู่

นอกจากนี้แน่นอนแล้วว่าเมื่อมีการควบคุมการระบาดของโควิด-19ได้เป็นระยะเวลาหลายเดือนสิ่งที่เกิดขึ้นมาคือประชาชนพอใจและเกิดความหละหลวมเพราะฉะนั้นตรงนี้เองที่มันกลายเป็นปัจจัยสำคัญว่าเมือ่เกิดความหละหลวมแล้วแน่นอนว่าการระบาดของโควิด-19มันก็จะต้องเกิดตามมาผู้ช่วยมหาลัยแห่งชาติใต้หวันบอกว่าโรงพยาบาลหลายแห่ง

เรียกว่าแทบจะไม่มีการตรวจเชื้อโควิด-19เลยก็ว่าได้ใครที่ปวดหัวเป็นไข้ตัวร้อนจริงๆแล้วมันเป็นอาการเบื้องต้นของการติดเชื้อโควิด-19คุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งนั้นแทบจะไม่ตรวจให้เลยเพราะว่าเขามอว่าในเมือ่เราคุมเข้มในพรมแดนมากขนาดนี้เชื้อโควิด-19มันไม่สามารถที่จะทะลุกำแพงของใต้หวัดมาได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

ทำไมกู้ภัยต้อง เอาศพไปทิ้งไว้ตรงข้างถนน

เอาศพไปทิ้งไว้ตรงข้างถนน

แม่ยังสงสัยทำไมกู้ภัยต้อง เอาศพไปทิ้งไว้ตรงข้างถนน สุดอนาถไม่สามารถไปเผาศพลูกได้ 

       ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปพี่กู้ภัยแห่งหนึ่งได้มีการนำศพผู้ชายคนหนึ่งไปทิ้งไว้ข้างถนนซึ่งเมื่อคืนดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปก็ทำให้หลายคนที่เห็นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากหลังจากที่มีการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายสุระเดชเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์แต่มาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯซึ่งก่อนหน้าที่จะพบเป็นศพนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์ได้บอกว่านายสุรเดชนั้นอยู่ดีๆก็เป็นลมล้มลงไปหลังจากที่เป็นลมแล้วเขายังไม่ได้เสียชีวิตทันที

มีพลเมืองดีได้แจ้งให้กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือซึ่งทางกู้ภัยเองก็ได้มีการพานายสุรเดชเพื่อที่จะเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อแต่กู้ภัยขับรถพานายสุรเดชห่างออกมาจากจุดที่นายแสดงเป็นลมแค่เพียงครึ่งกิโลเท่านั้นก็จอดรถริมถนนแล้วนำร่างของนายสุรเดชทิ้งไว้ตรงข้างถนนแล้วขับรถกู้ภัยออกไปทันทีหลังจากนั้นไม่นานก็มีรถจากทางโรงพยาบาลมารับศพของนายสุรเดชขึ้นรถไปอีกทีนึง

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้หลายคนคาดการณ์กันว่าระหว่างทางที่กู้ภัยนำตัวนายสุรเดชเดินทางเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้นอาจจะพบว่านายสุรเดชนั้นเกิดเสียชีวิตกะทันหันทางกู้ภัยเกรงว่าทางผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาจึงได้มีการโทรประสานงานกับทางโรงพยาบาลให้มารับศพแทนซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางนักข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางแม่ของนายสุรเดชถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งคุณแม่เองก็เสียใจเป็นอย่างมากหลังจากที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเลยคุณแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องนำศพของลูกชายไปทิ้งข้างถนนอย่างน่าอนาถ

เช่นนั้นในขณะเดียวกันคนในหมู่บ้านนี้ก็มีการเล่าลือกันว่านายสุรเดชนั้นตายเพราะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเมื่อคุณแม่ต้องการที่จะไปรับศพลูกชายกลับมาเผาที่หมู่บ้านชาวบ้านก็พากันประท้วงไม่ยอมให้ไปรับศพกลับมาในขณะเดียวกันเมื่อคุณแม่ต้องการที่จะไปเผาศพลูกตนเองที่กรุงเทพฯก็พบว่าชาวบ้านห้ามไม่ให้คุณแม่เดินทางออกนอกหมู่บ้านเพราะเกรงว่าจะนำเชื้อไวรัสโคโรน่าเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว

ชาวบ้านจะพากันติดเชื้อกันหมดซึ่งตอนนี้แม่ของผู้เสียชีวิตก็ได้แต่เศร้าโศกเสียใจที่ตนเองไม่สามารถไปร่วมงานศพของลูกเป็นครั้งสุดท้ายได้โดยคุณแม่ของนายสุรเดชเล่าว่าลูกชายทำงานรับจ้างก่อสร้างซึ่งเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯได้ประมาณ 5 เดือนแล้วแล้วตั้งแต่เดินทางไปอยู่กรุงเทพฯลูกชายก็ติดต่อกับแม่มาสม่ำเสมอ

ซึ่งเหตุการณ์ที่ลูกเสียชีวิตในครั้งนี้ก็ทราบข่าวเพราะว่าลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯโทรมาเล่าให้ฟังตอนนี้แม่คิดถึงลูกมากแต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปหาลูกได้

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย