จากใจ ไผ่วันพอยท์ สส.พรรคเศรษฐกิจไทย หลังเข้าช่วยเหลือหญิงถูกสามีทำร้าย 

จากใจ ไผ่วันพอยท์ สส.พรรคเศรษฐกิจไทย เมื่อวันที่ 7 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ที่สนสุทธิสารจะเห็นว่า  ไผ่ วันพอยท์ ซึ่งเป็นสส. พรรคเศรษฐกิจไทย 

ได้พาหญิงสาวคนหนึ่งไปทำการแจ้งความเพื่อเอาผิดสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวในคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย   ซื้อเรื่องนี้ทางผู้สื่อข่าวเองก็ได้มีการขอสัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ไผ่วันพอยท์ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีของหญิงสาวคนดังกล่าว 

       จากการเปิดใจของไผ่ วันพอยท์ ระบุว่า  สาเหตุที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีของการทะเลาะวิวาทกันของสามีภรรยาเนื่องจากว่าหญิงสาวผู้เป็นผู้เสียหายนั้นได้ติดต่อร้องขอให้เข้ามาช่วยเหลือนอกจากนี้ยังเห็นได้ว่าครอบครัวของฝ่ายทางด้านสามีนั้นเป็นฝ่ายที่ค่อนข้างมีอิทธิพลเพราะพ่อนั้นเป็นถึงอดีตอัยการ  ซึ่งฝ่ายหญิงนั้นเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหากมีการไปแจ้งความ  

           ที่สำคัญหลังจากที่ไผ่ วันพอยท์ได้เห็นคลิปหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักนั้นก็ทำให้ตนเองนั้นรู้สึกสงสารและทนไม่ได้

       เพราะไม่คาดคิดว่าผู้หญิงจะต้องมาเจอเหตุการณ์การถูกทำร้ายรุนแรงแบบนี้นอกจากนี้จากการติดตามข่าวสารเบื้องต้นหลังจากที่มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันแล้วฝ่ายหญิงมาแจ้งความปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการเข้ามาดูแลคดีนี้อย่างเคร่งครัดเพราะหลังจากแจ้งความแล้วฝ่ายชายก็ยังไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบสวนแต่อย่างใด

และเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่เคยไปยังบ้านที่เกิดเหตุอีกด้วยซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าคดีนี้ฝ่ายหญิงอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั่นเองดังนั้นทางไผ่วันพอยท์จึงได้เข้ามาช่วยเหลือซึ่งทางไผ่วันพอยท์ยืนยันว่าตนเองนั้นเป็นตัวแทนของพรรคในการเข้ามาช่วยเหลือช่วยประสานงานคดีการทำร้ายร่างกายของหญิงสาว 

          อย่างไรก็ตามทางด้านไผ่วันพอยท์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตัวเขาเองนั้นจะไม่มีการกีดกั้นหรือมีการชี้แนะผู้เสียหายที่เป็นฝ่ายหญิงถ้าหากว่าทางผู้เสียหายต้องการคืนดีกับสามีก็จะไม่คัดค้านแต่จะเข้ามาดูแลเรื่องของความปลอดภัยของทางผู้เสียหายฝ่ายหญิงให้แล้วจะให้ความช่วยเหลือมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ในการรวบรวมหลักฐานเพื่อที่ฝ่ายหญิงจะได้สามารถเอาผิดฝ่ายชายและหย่าขาดจากฝ่ายชายได้นั่นเอง 

          นอกจากนี้ไผ่วันพอยท์ยังได้มีการฝากประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่างๆเพิ่มเติมด้วยว่าในขณะนี้ พรรคเศรษฐกิจไทย      ีดฟิำะ      นั้นได้มีการเปิดศูนย์ร้องทุกข์ขึ้นมาซึ่งทุกคนสามารถเดินทางมาที่พักที่ศูนย์ร้องทุกข์เพื่อให้ทางพรรคเข้าไปช่วยเหลือได้ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามไม่ว่าจะเป็นคนชราเด็กหรือสตรีทางพักยินดีให้ความช่วยเหลือทุกคนและพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนดังนั้นถ้าหากใครที่มีปัญหาไปแจ้งความดำเนินคดีแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ติดตามคดีไม่มีความคืบหน้าของคดีก็สามารถมาร้องทุกข์กับทางพรรคเศรษฐกิจไทย  ได้ 

ครูฉาวพานักเรียนเข้าม่านรูด เพื่อใช้เซ็กส์แลกเกรด 

    ครูฉาวพานักเรียนเข้าม่านรูด ที่จังหวัดสุรินทร์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีครูสอนวิชาสังคมศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมที่มักจะลวนลามเด็กนักเรียนและชอบชักชวนเด็กนักเรียนเข้าไปกระทำอนาจาร 

แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันความผิดได้  ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากทางผู้ใหญ่บ้านของตำบลนาดีให้ส่งชุดสืบสวนเข้ามาทำการตรวจสอบพฤติกรรมของครูคนดังกล่าว 

      อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองสุรินทร์ได้รับการร้องเรียนมาก็ได้มีการส่งชุดสืบสวนสอบสวนคอยสะกดรอยตามความเคลื่อนไหวของครูคนดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า  นายสมนึก

 

  โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2565  ครูรายนี้ได้มีการขับรถยนต์ไปที่โรงเรียนที่ตนเองสอนอยู่หลังจากนั้นก็จอดรถอยู่ที่บริเวณหน้าโรงเรียนสักพักก็มีเด็กนักเรียนขึ้นรถไปด้วยกันซึ่งรถของครูคนดังกล่าวนั้นได้ขับไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งโดยมีทางสายสืบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถตามเมื่อพบว่ามีการขับเข้าไปในรีสอร์ททางด้านสายสืบจึงได้มีการประสานงาน สภ.เมืองสุรินทร์ให้เข้าทำการตรวจค้นเพราะต้องสงสัยว่าครูหนุ่มคนดังกล่าวนั้นจะพาเด็กนักเรียนมาทำอนาจารที่รีสอร์ทดังกล่าวนั้นเอง 

      อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบุกเข้าไปก็พบว่า  นายสมนึกกำลังทำการลวนลามเด็กซึ่งทางด้านเด็กนักเรียนเองก็ได้ให้ข้อมูลว่าทางนายสมนึกได้มีการจับบริเวณหน้าอกและลูบขาอ่อนนอกจากนี้ยังมีการพูดคุยซักถามว่าอยากต้องการเงินสักเท่าไหร่  โดยนายสมนึกมีการเสนอเงินตั้งแต่ 500 บาทถึง 2,000 บาทให้ 

      สำหรับเด็กหญิงคนดังกล่าวนั้นระบุว่าเธอเป็นโรงเรียนที่นายสมนึกเป็นอาจารย์สอนอยู่โดยเธอเรียนอยู่ในระดับชั้นม. 3  ซึ่งปัจจุบันเธออายุ 17 ปีสาเหตุที่เธอเดินทางมากับนายสมนึกเพราะว่าเธอได้มีการติดต่อนายสมนึกเพื่อต้องการขอแก้เกรดเนื่องจากว่าเธอติด ร.  จึงได้เดินทางมาที่โรงเรียนเมื่อนายสมนึกมาถึงก็ได้มีการชักชวนให้ไปทานอาหารจึงได้ขึ้นรถมากับนายสมนึกซึ่งนายสมนึกนั้นก็ได้เลี้ยงอาหารและเบียร์ก่อนที่จะพาขึ้นรถเข้ามาภายในรีสอร์ท  หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

       อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางผู้ปกครองของเด็กทราบเรื่องแล้วและต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายสืบพบว่านายสมนึกมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้วและมีเด็กที่ถูกกระทำลามกอนาจารแบบนี้ประมาณ 4-5 คนแต่เด็กเรานั้นไม่กล้าที่จะทำการแจ้งความดำเนินคดีซึ่งสาเหตุเบื้องต้นนั้นอาจจะเกิดจากความอาย  

       นอกจากนี้ทางผู้ปกครองของเด็กยังมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่าได้มีการแจ้งไปทางผู้อำนวยการโรงเรียนให้ทราบปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้วแต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนร้องขอให้ยุติไม่ต้องการให้แจ้งความเพราะไม่อยากให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กยืนยันว่าจะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดให้ได้

 

สนับสนุนโดย.  sa gaming เครดิตฟรี50

หนีการกักตัว เพื่อไปงานวันเกิดเพื่อน ส่งผลมีคนติดไวรัสโคโรน่า 20คนกลายเป็น คลัสเตอร์ใหม่ 

        เมื่อวันที่ 25 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 ได้มีการเปิดเผยออกมาว่าที่จังหวัดนครพนมทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการประกาศสั่งปิดหมู่บ้าน  บ้านนาดีและหมู่บ้านนาคําเป็นการชั่วคราว สาเหตุนั้นก็เพราะว่ามีคนในหมู่บ้านที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า  หนีการกักตัว เพื่อไปงานวันเกิดเพื่อน  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องมีการสั่งปิดหมู่บ้านเป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ให้คนในหมู่บ้านออกนอกพื้นที่ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้คนนอกพื้นที่นั้นเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้

      ในการที่เจ้าหน้าที่สั่งปิดหมู่บ้านเป็นการชั่วคราวนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปในหมู่บ้านหลังจากนั้นก็จะมีการเข้าไปทำการตรวจร่างกายชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งสองหมู่บ้านว่ามีใครที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มหรือไม่สำหรับการปิดหมู่บ้านทั้งสองหมู่บ้านนั้นจะใช้ระยะเวลาในการติดหมู่บ้านประมาณ 7 วัน.  หนีการกักตัว เพื่อไปงานวันเกิดเพื่อน  และหลังจากทราบผลการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจากการที่พนักงานสาธารณสุขเข้าไปทำการตรวจสอบแล้วก็จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาต่อไป

      สำหรับสาเหตุที่ทำให้คนในหมู่บ้านติดเชื้อไวรัสโคโรนาจนถึงต้องมีการประกาศปิดหมู่บ้านนั้นก็เพราะว่าไม่มีชายคนหนึ่งซึ่งเขาอายุประมาณ 42 ปี  โดยชายคนดังกล่าวนั้นเป็นชาวจังหวัดสกลนครหลังจากที่เขามาที่หมู่บ้านที่เขาอยู่อาศัยแล้วเขาไม่ยอมกัดตัวอยู่ในจังหวัดของตนเองเป็นระยะเวลา 14 วันตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขแต่เขากลับขึ้นรถไปบ้านเพื่อนของเขาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านนาคําอยู่ในจังหวัดนครพนมโดยเหตุผลที่เขาเดินทางไปหาเพื่อนที่จังหวัดนครพนมนั่นก็เพราะว่าเขาต้องการไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของเพื่อนของเขา

       ถึงแม้ว่าเมื่อตอนที่เขาเดินทางเข้าไปในจังหวัดนครพนมจะมีด่านกักตัวเพื่อทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าสำหรับคนที่เดินทางเข้าจังหวัดนครพนมและเจ้าหน้าที่ก็ตรวจพบว่าร่างกายของเขานั้นมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาดังนั้นเขาจึงต้องไปยังศูนย์กักตัวที่ทางจังหวัดได้มีการเตรียมเอาไว้ให้อย่างไรก็ตามเขาได้หนีออกจากสูงที่มีการกักตัวเอาไว้หลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปหาเพื่อนของเขา

          ซึ่งภายในงานวันเกิดนั้นมีคนมาร่วมงานมากมายเต็มไปหมดและชายคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของวันเกิดและยังมีเพื่อนคนอื่นๆอีกมากมายรวมแล้วประมาณ 10 กว่าคนดูแต่ละคนนั้นก็มาจากหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านแตกต่างกันด้วยหลังจากนั้นผ่านไป 5 วันหลายคนมีอาการของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาและเมื่อไปทำการตรวจร่างกายก็พบว่าผลการออกมาติดเชื้อไวรัสโคโรนาจริงซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าของวันเกิดนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  gclub สล็อตฟรี

กินข้าวหลามจะหมดพบว่ามีสอดไส้ตะขาบ

       เมื่อวันที่ 12 เดือนมิถุนายนปีพศ 2560 ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่เธอพึ่งประสบพบเจอมาที่สร้างความสั่นสะเทือนเรื่องอาหารการกินของเธอได้มากเลยทีเดียวซึ่งเธอนั้นได้มีการโพสต์เพื่อแชร์ประสบการณ์ที่เธอเพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆเกี่ยวกับอาหารที่เธอซื้อมากินแล้วไม่สะอาดเพื่อหวังให้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆคนที่จะเลือกซื้ออาหารกินนั้นตรวจสอบให้เรียบร้อย

รวมถึงเป็นอุทาหรณ์ให้กับทางพ่อค้าแม่ค้าก่อนที่จะนำอาหารออกมาขายนั้นให้ดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีเสียก่อนซึ่งเรื่องราวของเธอนั้นเกิดขึ้นเมื่อเธอได้มีการขับรถไปทำธุระที่ต่างอำเภอในระหว่างทางนั้นเธอได้แวะเข้าปั๊มน้ำมันและแวะซื้อของกินมาหลายอย่างซึ่งหนึ่งในนั้นมีข้าวหลามโดยเธอซื้อมาเพียง 2 กระบอกเท่านั้น

สำหรับข้าวหลาม 1 กระบอกนั้นเธอนำไปฝากให้ญาติของเธอ 1 กระบอกส่วนอีก 1 กระบอกนั้นเธอนำมากินกับคนในครอบครัวซึ่งมีเธอและลูกชายของเธอพร้อมกับแม่ของเธอนั้นกำลังนั่งกินข้าวหลามด้วยความเอร็ดอร่อยเนื่องจากว่าเป็นอาหารจานโปรดของครอบครัวของเธอเลยทีเดียวแต่ระหว่างที่กินใกล้จะหมดอยู่แล้วนั้นเธอสังเกตว่าที่บริเวณไส้ของเข้าร้านนั้นมีสีดำติดอยู่ตรงข้าวเหนียวเยอะเป็นพิเศษ

แต่ที่ผิดสังเกตก็คือมันมีลักษณะเป็นรูปร่างดูแล้วเหมือนไม่ใช่เมล็ดของถั่วดำซึ่งเมื่อเธอไม่มั่นใจจะได้เอาไปให้พ่อของเธอนั้นช่วยดูให้และเมื่อพ่อของเธอเห็นก็ได้บอกว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นตะขาบซึ่งน่าจะติดมากับกระบอกข้าวหลามเมื่อเธอรู้ความจริงว่าข้าวหลามที่เธอชื่นชอบและเพิ่งกินไปจนจะหมดอยู่นั้นมีสวนผสมของตะขาบทั้งตัวรวมอยู่ด้วยทำให้เธอนั้นรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตามเธอได้มีการถ่ายรูปข้าวหลามที่มีการสอดไส้ตะขาบเอาไว้เพื่อนำมาโพสต์ลงใน Facebook ของตนเองเพราะต้องการแชร์ให้เพื่อนๆในเฟซของเธอนั้นมีการตรวจตราอาหารไทยรัฐกลุ่มก่อนที่จะซื้อและเธอยืนยันว่าสิ่งที่เธอโพสต์นั้นเธอไม่ได้ต้องการที่จะฟ้องร้องหรือเรียกค่าเสียหายจากทางแม่ค้าเพราะเธอเข้าใจดีว่าตะขาบไต่เข้าไปอยู่ในกระบอกข้าวหลามเอง

โดยที่แม่ค้านั้นไม่ทันได้ระวังดังนั้นเธอยังอยากฝากเรื่องราวนี้ให้แม่ค้าหลายๆคนที่ทำอาหารขายก่อนที่จะมีการทำอาหารให้มีการตรวจสอบภาชนะต่างๆให้เรียบร้อยว่ามีสิ่งแปลกปลอมปนเข้ามาในอาหารหรือไม่เพื่อที่จะได้ไม่ทำลายชื่อเสียงของพ่อค้าแม่ค้าแต่สำหรับเธอในครั้งนี้เธอบอกว่าถึงแม้เธอจะชอบมากแค่ไหนแต่เธอคงต้องหยุดกินข้าวหลามไปเป็นพักใหญ่เลยทีเดียวเพราะแค่นึกถึงข้าวหลามขึ้นมาทีไรเธอก็อยากจะอ้วกออกมาทันที

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัคร Gclub