ศาลสั่งจำคุก 4 เดือนปรับ 6,000 บาทกรณีลุงพลครอบครองไม้หวงห้าม 

กรณีลุงพลครอบครองไม้หวงห้าม  เชื่อว่าหลายคนยังคงจำลุงพลจากข่าวกรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงชมภู่ได้เป็นอย่างดีซึ่งรวมพลนั้นเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี

และอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาลอย่างไรก็ตามนอกเหนือจากคดีการฆ่าน้องชมพู่แล้วก่อนหน้านี้ไม่นานลงทุนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเมื่อมีการไปตั้งศาลเจ้าแม่โสรภีภายในเขตพื้นที่บ้านของตนเองโดยภายในศาลเจ้าแม่นั้นได้มีการนำไม้ขอนหนึ่งมาวางเอาไว้

โดยอ้างว่าเป็นไม้ตะเคียนทองแต่เมื่อมีการเข้าไปตรวจสอบพบว่าไม้ดังกล่าวนั้นเป็นไม้ต้องห้ามเป็นไม้มะค่าแต้ซึ่งไม่สามารถที่จะครอบครองได้จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งจับกุมและต่อสู้กันในชั้นศาล

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2565 ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้มีการประกาศคำพิพากษาในคดีความครอบครองไม้มะค่าแต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งไม้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไม้หวงห้ามไม่สามารถนำมาครอบครองเป็นของตนเองได้โดยผลของการตัดสินนั้นปรากฏว่าสารยืนยันให้ลุงพลจำคุกเป็นระยะเวลานาน 4 เดือนทั้งนี้ยังต้องเสียเงินค่าปรับอีกเป็นจำนวนเงิน 6666 บาท 66 สตางค์อย่างไรก็ตามสำหรับไม้มะค่าแต้ซึ่งอยู่ที่บ้านของลุงพลนั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ริบไม้ของกลางเอาไว้ส่วนการติดคุกนั้นสามารถทำการรอลงอาญาได้นาน 1 ปี 

         อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ลุงพลยืนยันในชั้นศาลว่าตนเองนั้นไม่รู้ว่าไม้ที่ครอบครองอยู่นั้นเป็นไม้ต้องห้ามและเป็นไม้มะค่าแต้เพราะมองเห็นว่าขอนไม้ดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นไม้ตะเคียนทองเนื่องจากว่าลักษณะของไม้นั้นมีสีเหลืองทองและไม้นั้นก็ไม่มีการตัดมาจากในป่า

แต่ไม้ดังกล่าวนั้นลอยมาตามน้ำมาติดคลองอยู่แถวบริเวณข้างบ้าน  ufabet     ดังนั้นเมื่อเห็นไม้ติดมาแล้วมีความสวยและคิดว่าเป็นไม้ตะเคียนจึงนำมาวางไว้ที่บริเวณบ้านหลังจากนั้นชาวบ้านก็พากันมากราบไหว้ขอพรกับขอนไม้ดังกล่าวและหลายคนประสบความสำเร็จตามที่ขอจึงมีการนำดอกไม้ธูปเทียนพวงมาลัยน้ำแดงมาถวายรวมถึงตั้งเป็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนโสรภีนั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามหลังจากฟังผลพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะข่าวก็ได้เข้าไปทำข่าวซึ่งจากสถานการณ์โดยรวมเห็นว่าลุงพลในไม่ได้มีการรู้สึกเครียดกับผลของคำพิพากษาอย่างไรเพราะหลังจากที่ฟังผลเสร็จแล้วก็ยังมีการมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารรวมถึงพูดคุยกับบรรดาแฟนคลับที่เดินทางมาให้กำลังใจ อีกด้วย 

       สำหรับลุงพลนั้นเดิมทีเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเท่านั้นแต่เมื่อมีข่าวการเสียชีวิตของน้องชมพู่ลุงพลจึงกลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกออนไลน์มีคนติดตามการใช้ชีวิตของลุงพลกลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนทั้งที่ลุงพลนั้นคือผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 

โรบินฮู้ดเตรียมรับฟ้องร้อง Rider หัวร้อนเหตุเพราะยืมไอดีเพื่อนมารับงาน 

      โรบินฮู้ดเตรียมรับฟ้องร้อง Rider หากยังจำกันได้จากกรณีอุบัติเหตุพนักงาน Rider ขับรถชนคนบนทางเท้าจนถูกแจ้งความดำเนินคดี

เพราะเนื่องจากว่าจะมีการขับรถเฉี่ยวชนบนทางเท้าแล้วยังได้มีการจอดรถลงมาทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายคนบนทางเท้าอีกด้วยซึ่งเบื้องต้นนั้นทางพนักงาน Rider ได้ออกมาขอโทษคนในสังคมและขอโทษคนที่ตัวเองชอบปล่อยแล้วและเตรียมที่จะต่อสู้ทางด้านกฎหมายแล้ว

      อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลับไม่ได้จบเพียงแค่พนักงาน Rider คนดังกล่าวจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำความผิดกฎหมายด้านการจราจรเพียงเท่านั้นเพราะเนื่องจากว่าในช่วงที่มีการก่อเหตุหัวร้อนชกต่อยคนบนทางเท้าหรือขับรถเฉี่ยวชนบนทางเท้านั้นปรากฏว่าได้มีการสวมใส่ชุดพนักงานส่งอาหารชื่อดังบริษัทหนึ่ง

         โดยในขณะที่กระทำความผิดนั้นได้ถูกกล้องวงจรปิดถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ได้  ufabet     ทั้งหมดและภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์ทำให้คนเล่นโซเชียลนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากได้มีการติดต่อไปยังบริษัทส่งอาหารชื่อดังเพื่อให้ลงโทษพนักงาน Rider หัวร้อนคนดังกล่าวด้วย  สำหรับบริษัทส่งอาหารที่ Rider หัวร้อนสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มก็คือบริษัทโรบินฮูด 

        หลังจากเรื่องนี้เป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์และตามสื่อต่างๆปรากฏว่าทางบริษัทโรบินฮูดได้ออกแถลงการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยมีการเปิดเผยออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทโรบินฮูดไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการตรวจสอบแล้วว่า Rider หัวร้อนคนดังกล่าวเป็นใครซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล ID ปรากฏว่าชื่อของพนักงานที่รับงานในช่วงเวลาดังกล่าวกับชื่อ ID ที่สมัครไว้กับทางโรบินฮูดนั้นคนละชื่อกัน

         ซึ่งทางบริษัทโรบินฮูดได้มีการเช็คข้อมูลพบว่าคนที่ลงทะเบียนกับทางโรบินฮู้ดได้ให้เพื่อนยืมไอดีไปใช้ในการรับงานซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามเงื่อนไขของการลงทะเบียนการทำงานกับทางโรบินฮู้ดอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับทางบริษัทโรบินฮู้ดเป็นอย่างมากดังนั้นทางบริษัทโรบินฮู้ดจึงจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งจากเจ้าของไอดีที่ถูกข้อมูลไว้กับทางโรบินฮูดเองและเพื่อนหัวร้อนที่ยืมชุดของพนักงานของบริษัทโรบินฮูดไปใช้ในการรับงานซึ่งทั้งคู่นั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

         อย่างไรก็ตามทางบริษัทโรบินฮู้ดยืนยันว่าทางบริษัทจะมีการอบรมพนักงานของบริษัทโรบินฮู้ดทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตและถูกต้องปฏิบัติการตามกฎหมายทางจราจรอย่างเคร่งครัดและถ้าหากใครมีการกระทำความผิดก็จะมีการลงโทษอย่างหนักด้วยเช่นเดียวกัน 

เด็กนับ 10 ร่างกระแทกพื้นจากเหตุสไลเดอร์สูง 8 เมตรในสวนน้ำถล่ม 

ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่เมือง สุราบายา  โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่สวนน้ำแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า สวนน้ำ Kenjeran Park   

 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 13:00 น มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวในสวนน้ำดังกล่าวเป็นจำนวนมากและนักท่องเที่ยวนั้นก็ไปใช้บริการสไลเดอร์น้ำยักษ์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่พากันไปเล่นสไลเดอร์

อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในระหว่างที่มีการเล่นน้ำกันอยู่นั้นสไลเดอร์น้ำยักษ์ได้มีการพังถล่มลงมาซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่ามีคนกำลังเล่นสไลเดอร์ยักษ์นี้เป็นจำนวนมากโดยมีเด็กที่กำลังเล่นสไลเดอร์ยักษ์นี้มากกว่า 10 ชีวิตเลยทีเดียว

       เด็กนับ 10 ร่างกระแทกพื้น  เบื้องต้นจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นพบว่าในระหว่างช่วงประมาณ 13:00 น ถึง 13:30 น นั้นมีนักท่องเที่ยวพากันไปเล่นตรงบริเวณสไลเดอร์ยักษ์ในสวนน้ำกันเยอะมากจนเกินไปซึ่งทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วด้านบนของตัวสไลเดอร์หลังจากนั้นก็เกิดมีการแยกตัวตรงบริเวณตรงกลางของสไลเดอร์หลังจากนั้นก็ถล่มลงมานักท่องเที่ยวที่อยู่ด้านบนร่วงลงมาเป็นจำนวนมากร่างหลายคนนั้นกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บมีเสียงนักท่องเที่ยวกรีดร้องโหยหวนด้วยความตกใจและตื่นกลัว

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นสามารถบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของทางสวนน้ำนั่นเองซึ่งจะได้เห็นเหตุการณ์ว่ามีคนร่างกระแทกลงมาจากด้านบนลงสู่ด้านล่างเยอะมากและด้วยความสูงของสไลเดอร์ที่สูงถึงเกือบ 10 เมตรทำให้ผู้ที่ตกลงมานั้นได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสเลยทีเดียวมีผู้ใหญ่ประมาณ 10 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

         บางคนนั้นกระดูกหักและบางคนนั้นมีแผลฉีกขาดและอีกหลายคนที่มีปัญหาบาดเจ็บที่ระบบสมองนอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจเพราะหลายคนนั้นเกิดความหวาดกลัวเหตุการณ์ที่สไลเดอร์ยักษ์นั้นถล่มลงมาอย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอินโดนีเซียจะได้มีการเข้าไปทำการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งในขณะนี้ได้มีการประกาศปิดสวนน้ำแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าสไลเดอร์ดังกล่าวนั้นมีการเปิดใช้งานมานานแล้วและมีการซ่อมบำรุงเมื่อตั้งแต่ 9 เดือนที่แล้วซึ่งถือว่าเป็นการซ่อมบำรุงนานแล้วและด้วยอายุการใช้งานกับสภาพอากาศในปัจจุบันก็อาจจะทำให้สไลเดอร์นั้นเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลาและเมื่อมีคนมาเล่นเป็นจำนวนมากจึงไม่สามารถแบกรับน้ำหนักจำนวนผู้เล่นได้จึงทำให้เกิดการพังถล่มลงมาในครั้งนี้นั่นเอง

 

สนับสนุเนื้อหาต่างๆโดย  ufabet

หลานทรพี เสพยาบ้าจนหลอน โดนปู่ด่าคว้ามีดฟันจนตาย 

             สำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องของการเสพยาบ้าหรือเสพสิ่งเสพติดแล้วเกิดเป็นอาการหลอนมีอาการทางประสาทและมักทำร้ายคนในครอบครัวหรือทำร้ายคนอื่นนั้นเรามักจะพบเห็นอยู่เป็นประจำแต่ถึงแม้จะมีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องของการเสพยาบ้าแล้วเกิดอาการประสาทหลอนคุ้มคลั่งกลายเป็นคนโรคจิตแต่ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้คนนั้นเสพยาบ้ากันอยู่และปัญหานี้ก็ยังไม่เคยที่จะมีรัฐบาลชุดไหนสามารถแก้ไขปัญหาแบบนี้ได้

       อย่างเช่นกรณีของชายคนหนึ่งวัย 58 ปีต้องเสียชีวิตจากการถูกหลานชายของตนเองวัย 20 ปีทำร้ายร่างกายจนตายสาเหตุไม่ก็เพราะว่าหลานชายนั้นเมายาบ้าและเมากัญชา  เมื่อถูกผู้เป็นปู่ดุด่าก็เกิดอาการไม่พอใจหลังจากนั้นก็ได้ใช้มีดเข้าไปทำร้ายฟันผู้เป็นปู่จนยับเยินจนเสียชีวิตอย่างอเนจอนาถ 

       หลานทรพี เสพยาบ้าจนหลอน  เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2564 ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านแห่งหนึ่งอยู่ในบ้านหนองบัวงามจังหวัดหนองบัวลำภู เวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 18:20 น .   จากการให้ข้อมูลของชาวบ้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และเหตุการณ์มาโดยตลอดนั้นได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สุวรรณคูหาว่า ผู้เสียชีวิตชื่อว่านายบุญมีเป็นปู่ของคนร้ายด้วยในวันเกิดเหตุนั้นคนร้ายได้ไปเสพยาบ้าและเสพกัญชามามีอาการหลอน

          เมื่อคนร้ายเดินทางเข้ามาภายในบ้านพักก็ถูกผู้เป็นปู่ดุด่าเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ยาเสพติดทำให้คนร้ายนั้นมีอาการไม่พอใจจึงได้ใช้มีดซึ่งมีความยาวประมาณ 1 ศอกฟันทำร้ายร่างกายผู้เป็นปู่โดนทั้งบริเวณลำคอกกหูและใบหน้าซึ่งผู้เสียชีวิตพยายามที่จะวิ่งหนีเอาตัวรอดและหาที่ซ่อนแต่คนร้ายก็พยายามที่จะวิ่งตามไปทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไรก็ตามชาวบ้านได้เข้ามาช่วยเหลือนำผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสุวรรณคูหาแต่เนื่องจากว่ามีบาดแผลตามร่างกายเยอะมากจึงเสียเลือดมากและเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

นอกจากนี้ชาวบ้านยังให้ข้อมูลด้วยว่าคนร้ายนั้นเป็นหลานชายของผู้เสียชีวิตหลังจาก    ufabet    ที่ก่อเหตุฟันผู้เป็นปู่ของตนเองแล้วก็ได้วิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุซึ่งวิ่งหนีไปหลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น 

            อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการไปร้องบ้างที่คาดว่าคนร้ายจะหนีไปหลบซ่อนและสามารถเข้าควบคุมตัวได้ในที่สุดส่วนของกลางซึ่งเป็นอาวุธมีดคนร้ายยืนยันว่าได้มีการนำไปทิ้งลงแม่น้ำเรียบร้อยแล้วโดยสถานที่ทิ้งนั้นเป็นแม่น้ำสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่กลางหมู่บ้านดังกล่าวแต่ทางคนร้ายให้การรับสารภาพหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ระยะเวลาในการสอบสวนนานพอสมควรว่าตนเองโมโหที่ถูกปู่ด่าจึงได้ใช้อาวุธมีดไปทำร้ายร่างกายเนื่องจากว่ามีอาการเมาจากการใช้ยาบ้าและกัญชาหลังจากที่ฟันแล้วก็ไม่ได้ดูว่าปู่เสียชีวิตหรือไม่ได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวทันทีจนภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนนั้นเอง

สาวสุดช็อก เจอชายปริศนานอนแก้ผ้าอยู่ท้ายรถ

เจอชายปริศนานอนแก้ผ้า เป็นเรื่องราวของหญิงสาวชาวอเมริกันคนหนึ่งจะได้มีการโพสต์เรื่องเล่าเรื่องราวของเธอ  ผ่าน app  tiktok โดยมีการเปิดเผยเรื่องราวในเมื่อวันที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2565

โดยหญิงสาวคนดังกล่าวเธอมีชื่อว่าเบธานี   ซื้อเรื่องของเธอนั้นเธอได้มีการแชร์ประสบการณ์ชวน Shock ซึ่งเธอไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อนโดยระบุว่าในขณะที่เธอกำลังขับรถอยู่บนถนนอยู่นั้นเธอสังเกตเห็นว่าทารกของเธอนั้นมีดินเพื่อนอยู่เธอจึงได้จอดรถและปิดบลูเปิดท้ายรถดูก็พบว่าที่ทารกของเธอนั้นมีผู้ชายนอนอยู่โดยผู้ชายที่แอบมานอนอยู่ท้ายรถของเธอนั้นอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่สวมใส่เสื้อผ้าหรือแม้แต่กางเกงในเลย

      อย่างไรก็ตามด้วยความตกใจเธอจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดที่เธอจอดรถอยู่หลังจากนั้นเธอก็ถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่เธอสนทนากับชายแปลกหน้าที่แอบเข้ามานอนแก้ผ้าอยู่ท้ายแล้วของเธอโดยเธอสอบถามถึงที่มาที่ไปว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครและเข้ามานอนอยู่ท้ายรถของเธอได้อย่างไรซึ่งประชาแตกหน้านั้นก็บอกแต่เพียงแค่ว่าเขาเป็นลูกของพระสันตะปาปาและในขณะนี้เขากำลังทำพิธีอย่างหนึ่งซึ่งวิธีดังกล่าวนั้นเรียกว่าวิธีเปลี่ยนผ่านทำให้หญิงสาวรายนี้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก 

          อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็ได้มีการพูดคุยกับชายแปลกหน้าที่ขึ้นไปอยู่ท้ายรถของ เบธานี  ให้ฝ่ายชายนั้นได้สวมใส่เสื้อผ้าหลังจากนั้นก็พาไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบสวนเพื่อพูดคุยถึงสาเหตุของการแอบมาอยู่ท้ายรถของคนอื่นแบบนี้ด้วยหลัง  ufabet    จากที่มีการพูดคุยกันแล้วทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าชายคนดังกล่าวน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพจิตเนื่องจากว่าไม่สามารถพูดคุยกันรู้เรื่องซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของประวัติการแจ้งคนหายหลังจากนี้ก็จะมีการติดตามหาย่ามารับตัวใช้คนแปลกหน้าคนนี้ไป

         เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านของเบธานีพบว่าใช้แปลกหน้ารายนี้แอบเข้าไปหลบอยู่ภายในรถของหญิงสาวตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 แล้วโดยที่หญิงสาวเองนั้นไม่เคยรู้ตัวมาก่อนและมาพบเห็นอีกทีก็คือวันที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 นั่นเองซึ่งถือได้ว่าชายคนนี้แอบมาอยู่ท้ายรถของเบธานีนานถึง 3 วันเลยทีเดียว 

       อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้ถูกโพสต์ลงในสังคมออนไลน์ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากหลายคนนั้นเกิดรู้สึกหวาดกลัวว่าตนเองอาจจะต้องเจอกับผู้มีปัญหาสุขภาพจิตหรือพวกบ้าคลั่งลัทธิแบบนี้ซึ่งคนในโลกออนไลน์ต่างก็พากันแชร์เพื่อให้ทุกคนนั้นต่างก็ต้องระมัดระวังตัวกันให้ดีให้สำรวจตนเองให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะมีการขับออกไปไหนมาไหนเพราะหากไม่ใช่คนบ้าก็อาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพแอบมาดักอยู่ในรถได้ 

กลายเป็นความรู้สึกบิลเลียดนานาชาติ

Masako Katsura พุ่งขึ้นสู่ฉากบิลเลียดในปี 1950 และทำเครื่องหมายของเธอทันที Champion Welker Cochran เป็นผู้จัดการของ Katsura Cochran บอกกับหนังสือพิมพ์ว่า “เกมนี้ต้องการผู้เล่นหญิงที่มีทักษะเพียงพอที่จะแข่งขันกับผู้เล่นชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

และตอนนี้ฉันมั่นใจว่าในที่สุดก็มีแค่นั้น” คัตสึระพาดหัวข่าวอย่างรวดเร็ว แต่สื่อมวลชนสนใจเรื่องเพศของเธอมากกว่าทักษะของเธอ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเรียกแชมป์เปี้ยนว่า “ไม้คิวญี่ปุ่นแท้ๆ”

อีกคนอธิบายว่าคัตสึระเป็น “ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูราวกับว่าเธอจะมีปัญหาในการเป่าขนนกออกไป แต่ใครกันที่สามารถทำให้ลูกบิลเลียดระเบิดหรือทำตัวเหมือนเด็กที่ถูกตีสอน” นักเล่นบิลเลียดคนอื่นๆ ให้ความเคารพคัตสึระมากขึ้น Willie Hoppe ประกาศว่า “ในภาคตะวันออกพวกเขาบอกฉันว่าเธอเป็นคนดี แต่ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นมหัศจรรย์

เธอจะชนะการแข่งขันกับสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขา” สื่อได้กล่าวถึงการแข่งขันระหว่าง Hoppe และ Katsura ในปี 1952 ที่แตกต่างกันอย่างมาก Hoppe เป็นแชมป์โลก 51 สมัย คัตสึระเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นตัวเล็ก

“ไม่มีสุภาพบุรุษคนไหนควรปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง นับประสาหญิงสาวที่มีสัดส่วนสง่างามในชุดราตรีผ้าซาตินสีทอง แบบที่วิลลี่ ฮอปเป้ทำกับมิสมาซาโกะ คัตสึระเมื่อคืนนี้” หนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกโครนิเคิลตีพิมพ์ “เขาสวมถุงเท้าให้เธอด้วยไม้คิวบิลเลียด” แม้จะล้มเหลวในการถอดฮอปเป้ในฐานะแชมป์โลก คัตสึระก็กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่เข้าแข่งขันในทัวร์นาเมนต์บิลเลียดระดับนานาชาติ

ปีต่อ ๆ มาของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งบิลเลียด หลังจากทำลายอุปสรรคทางเพศในบิลเลียด Masako Katsura ก็กลายเป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยม ในปี 1958 เธอปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์เครือข่าย เธอยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ในปี 1961 คัตสึระเกษียณหลังจากพ่ายแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่างยากลำบากCochran โค้ชเก่าแก่ของ Katsura ยกย่องทักษะของเธอ “มาซาโกะได้เปิดสนามใหม่

สำหรับผู้หญิง การปรากฏตัวของเธอทำให้เกมนี้น่าสนใจสำหรับผู้หญิงเป็นครั้งแรก แต่เธอมีพลังของผู้ชายคนหนึ่ง” สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งบิลเลียดปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในปี 2519 เธอปรากฏตัวที่ห้องบิลเลียดในซานฟรานซิสโก หยิบไม้คิว และวิ่ง 100 คะแนน จากนั้นเธอก็วางคิวและหายตัวไปอีกครั้ง

  ในปี 1970 บิลเลียดได้เปลี่ยนไป ทศวรรษนั้น กลุ่มผู้เล่นได้ก่อตั้งสมาคมบิลเลียดอาชีพสตรี พวกเขาแต่งตั้งคัตสึระเข้าสู่หอเกียรติยศ สำหรับอดีตแชมป์นั้น Masako Katsura ย้ายกลับไปญี่ปุ่นและเสียชีวิตในปี 1995 มาซาโกะ คัตสึระทำลายกำแพงพร้อมกับผู้หญิงอีกหลายคน ต่อไป อ่านเกี่ยวกับ Babe Didrikson นักกีฬารอบด้าน แล้วเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนักกีฬาหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

เรื่องราวความประทับใจของหนุ่มส่งอาหาร

   หนุ่มส่งอาหาร  มีการเปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มชาวสิงคโปร์คนหนึ่งผ่านทางเว็บไซต์ mastership  เรื่องราวนั้นถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ.2563 ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องราวความประทับใจของชายหนุ่มคนนึง

ซึ่งทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร  โดยเข้าเล่าเรื่องราวว่าในเช้าวันหนึ่งเขาต้องไปส่งอาหารด้วยการปั่นจักรยานไปและมีลูกค้าสั่งอาหารซึ่งอาหารที่สั่งนั้นมีทั้งตัวอาหารและน้ำซุป

       อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าใช้จักรยานในการขนส่งจึงใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากร้านอาหารไปยังบ้านลูกค้าค่อนข้างนานซึ่งลูกค้าต้องรออาหารจากเขานานเกินกว่า 45 นาทีเลยทีเดียว และเมื่อไปถึงบ้านลูกค้า พนักงานส่งอาหาร

รายนี้ก็หยิบอาหารออกมาจากกระเป๋าแต่ปรากฏว่าน้ำซุปหกเลอะเทอะนอกจากนี้ยังหกใส่ถุงกระดาษที่ใส่อาหารด้วยทำให้เมื่อเขายกถุงกระดาษขึ้นมาอาหารจึงตกลงพื้นเรียกได้ว่าอาหารและน้ำซุปที่สั่งมานั้นเสียหายทั้งหมด

       อย่างไรก็ตามพนักงานส่งอาหารตกใจเป็นอย่างมากเพราะเขาคิดว่าเขาจะต้องถูกลูกค้าได้อย่างแน่นอนเนื่องจากว่าอาหารที่สั่งนั้นเสียหายทั้งหมดและยังต้องปล่อยให้ลูกค้ารออาหารนานอีกด้วยซึ่งเมื่อลูกค้ามองเห็นเขาก็ได้กล่าวขอโทษลูกค้าทันที

พร้อมกับยืนยันว่าถ้าหากลูกค้ายังต้องการอาหารชุดเดิมเขาจะกลับไปเปลี่ยนอาหารให้กับลูกค้าแต่ถ้าหากลูกค้าไม่สะดวกเขายินดีชดเชยด้วยการจ่ายเงินสดคืนให้กับลูกค้าทันที

      พนักงานหนุ่มรายนี้ต้องตกใจเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาพูดจบเพราะลูกค้าไม่ได้แสดงกิริยาอะไรที่แสดงออกถึงความไม่พอใจเลยเธอได้มีการปลอบใจเขาว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรและไม่ได้รู้สึกโกรธนอกจากนี้เธอยังปฏิเสธที่จะรับเงินที่เขาส่งให้เธออีกด้วย

และเธอบอกว่าเธอเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเขา ดังนั้นเธอรู้สึกไม่เป็นอะไรจริงๆและยังบอกให้เขานั้นไม่ต้องเป็นกังวลใจไม่ต้องคิดมาก

        อย่างไรก็ตามพนักงานหนุ่มส่งอาหารรายนี้  ระบุว่านอกจากเขาจะไม่ได้ถูกลูกค้าต่อว่าด่าทอหรือเขียนคอมเม้นไปยังบริษัทคอมเพลนในเรื่องที่ไม่ดีแล้วลูกค้าคนดังกล่าวยังมีการมอบทริปให้กับเขาอีกด้วยซึ่งหลังจากที่เขาไปเปิดในแอพพลิเคชั่นดูก็พบว่าเธอให้เงินค่าทิปของเขามาเป็นจำนวน 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งทหารคิดเป็นเงินไทยนั้นก็อยู่ที่ประมาณ 115 บาทเลยทีเดียว 

         อย่างไรก็ตามเรื่องราวนี้ทำให้เขารู้สึกประทับใจกับลูกค้ารายนี้เป็นอย่างมากเพราะลูกค้าไม่เพียงไม่ต่อว่าเขาแต่ยังแสดงความมีน้ำใจต่อเขาซึ่งลูกค้าสาวรายนี้นั้นเป็นคนดีมีน้ำใจเป็นอย่างมากและพนักงานหนุ่มมองว่าเขาโชคดีมากที่ได้เจอกับลูกค้าใจดีแบบนี้เขายิงจึงอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆความประทับใจที่เขาได้รับจากลูกค้าเผื่อแผ่ให้คนในโลกออนไลน์ได้ทราบจึงได้มีการแชร์ไปที่เว็บไซต์ดังกล่าวนั้นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

สาวถ่ายคลิปแฉ..รถสองแถวกร่างจอดขวางตรงป้ายรถเมล์ลุงวัย 60 มาเตือนลงมาต่อยจนล้มกลางถนน 

    รถสองแถวกร่าง  เมื่อวันที่ 29 เดือนกันยายนปีพ.ศ. 2564 ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งได้มีการโพสต์คลิปที่จะถ่ายขึ้นความยาวประมาณ 1 นาทีโดยคลิปดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงบริเวณป้ายรถเมล์ซึ่งในคลิปจะเห็นมีรถเมล์สองแถวจอดอยู่และมีคนกำลังถูกต่อยอยู่ตรงบนบริเวณรถสองแถวคันดังกล่าวพร้อมกันนี้  หญิงสาวเจ้าของโพสต์ยังได้มีการเขียนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่ารถสองแถวจอดมาขับอยู่ตรงบริเวณป้ายรถเมล์และจอดแช่เอาไว้ทำให้รถเมล์ไม่สามารถที่จะเข้าจอดรับผู้โดยสารได้   

    มีชายวัย 60 ปีไปทำการเคาะกระจกรถของแถวพร้อมกับบอกให้เจ้าของรถขยับรถออกเพื่อเปิดโอกาสให้รถเมล์เข้ามาจอดในป้ายรับผู้โดยสารหลังจากนั้นเจ้าของรถสองแถวก็เปิดประตูรถลงมาพร้อมกับต่อยคุณลุงและยังพูดจาหยาบคายซึ่งในระหว่างนั้นมีคนเห็นเหตุการณ์เต็มไปหมด  ufabet    แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือคนขับรถสองแถวต่อยจนคุณลุงวัย 60 ปีล้มและจะเข้าไปต่อยซ้ำทำให้มีพลเมืองดีมาทำการห้ามปราม 

      ซึ่งตัวเธอเองนั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์แล้วไม่สามารถทนพฤติกรรมของคนขับรถสองแถวได้จึงได้มีการถ่ายคลิปเอาไว้แล้วนำมาโพสต์ใน Facebook ของตนเอง   อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปนี้มีการแชร์กันมากในโลกออนไลน์ก็มีนักข่าวของช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวและได้มีการต่อสายตรงไปยังเจ้าของโพสต์ ซึ่งเธอก็เล่าเหตุการณ์ให้นักข่าวฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงบริเวณป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่บางแคโดยป้ายรถเมล์ดังกล่าวนั้นอยู่ตรงข้ามกับเดอะมอลล์บางแค  

         โดยปกติแล้วตรงบริเวณนี้จะมีรถสองแถวมาจอดรอรับผู้โดยสารเป็นประจำและส่วนใหญ่ก็มักจะจอดติดเครื่องเอาไว้เป็นเวลานานทำให้ตรงบริเวณนี้รถเมล์จะไม่ค่อยวิ่งเข้าป้ายเพราะไม่สามารถเข้าไปจอดรับผู้โดยสารตรงบริเวณป้ายได้ส่วนคุณลุงวัย 60 ปีที่ไปเคาะกระจกรถสองแถวนั้นเธอเชื่อว่าคุณลุงน่าจะรอรถเมล์นานแล้ว

และรถเมล์ที่คุณลุงรอได้มีการขับผ่านไปโดยที่ไม่จอดรับทำให้คุณลุงจำเป็นที่จะต้องไปเคาะกระจกเพื่อบอกกับรถสองแถวคันดังกล่าวให้ขยับออกจากพื้นที่ซึ่งเธอมองว่าการกระทำของคุณลุงนั้นเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วและรถสองแถวไม่ควรที่จะลงมือมาทำร้ายคุณลุง  

       อย่างไรก็ตามเธอฝากไปยังถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวด้วยเพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นมานานแล้วและก็ไม่ได้รับการดูแลทำให้ประชาชนที่ต้องมารอรถเมล์บริเวณนี้ต่างก็ได้รับความเดือดร้อน 

แม่วัย 40 ปีพาลูกวัย 16 ปีไปกินเหล้า ถูกตำรวจจับแล้วอาละวาด   

     ถูกตำรวจจับแล้วอาละวาด   เมื่อวันที่ 30 เดือนธันวาคมปีพศ 2564 ในช่วงเวลาประมาณ 01:30 น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณถนนไร่กล้วยซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี โดยอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่รถชนท้ายกันซึ่งรถคันที่ขับมาชนท้ายนั้นเป็นหญิงสาววัย 40 ปีอยู่ในอาการเมามายไม่ได้สติพูดจาไม่รู้เรื่อง

     เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบรถทั้ง 2 คันจอดอยู่ตรงบริเวณริมถนนซึ่งเจ้าของรถคันที่ชนท้ายรถคันอื่นนั้นเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปีนั่งอยู่ฝั่งเบาะของคนขับโดยมีการพูดจาโวยวายทะเลาะอยู่กับคู่กรณีซึ่งจากการตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่าน่าจะเมาสุราเนื่องจากว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาอย่างชัดเจน

          หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปคุยเพื่อทำการเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นปรากฏว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นไม่พอใจยังคงส่งเสียงโวยวายเสียงดังอยู่ตลอดเวลานอกจากนี้ยังได้ด่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกด้วยพร้อมกันนี้ก็ยังอ้างว่าเธอนั้นรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มียศตำแหน่งใหญ่โต

       อย่างไรก็ตามเรื่องราวกลับบ้านไปเพิ่มมากขึ้นเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้มีการเข้าไปแย่งปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พกอยู่ที่บริเวณเอวภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมหญิงสาวคนดังกล่าวเอาไว้ได้พร้อมกับใส่กุญแจมือแล้วพาไปที่โรงพักเพื่อให้หญิงสาวคนดังกล่าวสงบสติอารมณ์นอกจากนี้หญิงสาวคนดังกล่าวยังแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่าตัวเธอเองนั้นมีอาการทางจิตและเธอได้เดินทางมาพร้อมกับลูกชายของเธออายุ 16 ปี

          ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาลูกชายของเธอมาตรวจวัดแอลกอฮอล์รวมถึงตัวเธอเองด้วยก็พบว่ามีแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินกว่าที่ทางกฎหมายได้มีการกำหนดเอาไว้จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และมีการขับรถนอกจากนี้ยังมีการแจ้งข้อหาอื่นๆพร้อมกันนี้ก็พาหญิงสาวเข้าไปในห้องขังเพื่อต้องการให้หญิงสาวนั้นสงบสติอารมณ์

           อย่างไรก็ตามสำหรับคู่กรณีของหญิงสาวนั้นได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขณะที่พวกเขากำลังขับรถมาอยู่ดีๆนั้นปรากฏว่าก็มีรถเก๋งขับมาชนท้ายเขาจึงได้จอดรถ

และลงมาเพื่อจะคุยกับคู่กรณีแต่หลังจากที่เจอหน้าคู่กรณีหญิงสาวคนดังกล่าวก็เอาแต่ต่อว่าโวยวายแล้วอ้างว่ารู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่และไม่ยอมคุยกับเขาทำให้เขานั้นไม่สามารถตกลงเจรจาเรื่องของค่าเสียหายของรถได้จึงได้ตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

ร้านโอเด้งเกาหลีชื่อดัง ทำลูกค้าตะลึงเมื่อเจอ เทซุปที่กินแล้วใส่กลับไปในหม้อต้มอีกรอบ

               มีรายงานข่าวออกมาจากสื่อชื่อดังของ เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 19 เดือนเมษายน  ปีพศ. 2564  เมื่อคนในโลกออนไลน์ของประเทศเกาหลีใต้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อความและรูปภาพที่มีลูกค้ารายหนึ่งได้ไปใช้บริการรับประทานอาหารที่ร้านโอเด้งเกาหลีชื่อดังร้านหนึ่งซึ่งมีการระบุว่าร้านดังกล่าวนั้นเปิดมานานกว่า 60 ปีแล้วและเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเมืองปูซานเรียกได้ว่าเป็นร้านอันดับ 1 ของเมืองปูซานเลยก็ว่าได้โดยที่นักท่องเที่ยวคนไหนไปเที่ยวที่เมืองปูซานจะต้องแวะไปรับประทานโอเด้งที่ร้านนี้อย่างแน่นอน

      แต่สิ่งที่ทำให้คนในโลกออนไลน์ต้องออกมาวิจารณ์กันอย่างหนักแน่นก็พอว่าได้มีลูกค้ารายหนึ่งได้มีการถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ได้โดยคลิปดังกล่าวจะเห็นได้ว่าทางร้านนั้นได้มีการนำหม้อซุปที่ลูกค้าโต๊ะหนึ่งได้มีการกินเรียบร้อยแล้วมาเทกลับไปในหม้อต้มหม้อใหญ่ของทางร้านอีกรอบหนึ่ง 

         โดยมีการระบุข้อความว่ามีลูกค้าชายสูงวัยคนหนึ่งเรียกให้พนักงานนำหม้อซุปไปทำการอุ่นให้หน่อยเนื่องจากว่ากินนานน้ำซุปเย็นแล้วหลังจากนั้นพนักงานจึงได้นำหม้อซุปดังกล่าวไปทำการเทใส่หม้อต้มเพื่อทำการอุ่นให้กับลูกค้าแล้วตักกับขึ้นมาไปให้ลูกค้าชายสูงวัยกินอีกรอบนึงทำให้ลูกค้าคนที่เห็นเหตุการณ์และถ่ายคลิปไว้ไล่นั้นเกิดอาการตกตะลึงเลยทีเดียวเพราะว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานถึง 60 ปีจะทำแบบนี้เพราะลักษณะของการเทน้ำซุปที่ลูกค้ากินแล้วมาใส่หม้อต้มใหม่นั้นก็ถือว่าเป็นการนำน้ำซุปมารีไซเคิลหมายนั่นเอง

          และเมื่อคลิปนี้ถูกมีการโพสต์ออกไปทำให้คนในโลกออนไลน์นั้นต่างก็แชร์กันเป็นจำนวนมากโดยหลายคนบอกว่าร้านโอเด้งดังกล่าวไม่น่าจะทำแบบนี้เพราะแสดงให้เห็นถึงว่าทางร้านนั้นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องของสุขอนามัยของลูกค้าเลยที่สำคัญการทำแบบนี้ในช่วงที่กำลังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะจะทำให้ลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านโอเด้งดังกล่าวนั้นอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการที่ต้องกินอาหารร่วมกันแบบนี้ก็เป็นไปได้ 

           จากคลิปที่เผยแพร่นี่เอง  ทำให้คนในโลกออนไลน์ต่างออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการตรวจสอบร้านดังกล่าวถึงความสะอาดของสุขอนามัยของทางร้านซึ่งในขณะนี้ร้านได้ถูกสั่งให้ปิดบริการเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 15 วันเรียบร้อยแล้วเนื่องจากว่าทางด้านกรมสุขภาพอนามัยได้มีการออกไปตรวจสอบร้านตามที่ทางประชาชนได้ทำการร้องขอและพบว่าผิดหลักสุขาภิบาลอาหารจริงๆจึงทำให้เจ้าของร้านปิดปรับปรุงร้านและแน่นอนว่าทางด้านเจ้าของร้านอาจจะต้องถูกตั้งข้อหาอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet