แม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกเอง 15 คน ที่จังหวัดตรัง 

ที่จังหวัดตรังพบ แม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูกคนเดียวจำนวน 15 คน คุณแม่ท่านนี้อายุ 46 ปีมีนามว่า คุณศรีสุภา

หรือชื่อเล่นชื่อว่าคุณหยุ่น เธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากเลี้ยงลูกคนเดียวจำนวน 15 คนให้เติบโตได้เรียนหนังสือทั้งหมด

โดยเธอทำอาชีพรับจ้างกรีดยางและรับจ้างทั่วไปเพื่อให้ได้เงินให้ลูกๆ ไปเรียนหนังสือ ซึ่งนางหยุ่น เธอก็ให้ข้อมูลว่าลูกทั้ง 15 คนนี้แบ่งเป็นพ่อ 2 คน พ่อคนแรกจำนวน 5 คน และได้ หย่าร้างกับพ่อคนแรกตอนแรก พ่อของเด็กก็รับไปเลี้ยง

ซึ่งแบ่งการดูแลเพื่อแบ่งเบาภาระแต่สุดท้ายพ่อของเด็กก็นำลูกมาให้ตนเลี้ยงผู้เดียว จากนั้นเธอก็ได้สามีคนที่ 2 อยู่กินด้วยกันมามีลูก 10 คน ทั้ง 15 คนนี้แบ่งเป็นชาย 8 คนผู้หญิง 7 คน

ลูกคนแรกเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 29 ปี เรียนจบทำงานมีครอบครัวไปเรียบร้อยแล้ว คนสุดท้องคนที่ 15 เป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบ

ซึ่งอยู่ในวัยอนุบาล ซึ่งลูกคนที่โตกันไปหมดแล้วนั้นมีจำนวน 5 คน ได้เรียนจบและทำงานส่งเงินมาให้แม่ดูแลน้องๆ ลูกบางคนเรียนจบ มหาลัยชื่อดังของเอกชน

 

แม่ก็สามารถส่งลูกเรียนได้และตอนนี้ ลูกๆทั้ง 5 คนที่เป็นพี่คนโตก็สู้ง่ายมาให้แม่ได้ดูแลน้องๆที่เหลืออีก 10 คน

ซึ่งก็ไม่ได้รอแต่เงินจากลูกทั้ง 5 คนอย่างเดียวยังอยู่กล่าวอีกว่ามีรับจ้างก็ไปรับจ้างหมดค่าจ้างรายได้ตั้งแต่ 300 บาทถึง 700 บาทต่อวัน มีงานอะไรจะไปทำหมดเลยไม่เกี่ยงงานใดๆทั้งสิ้นเพื่อให้ลูกๆได้มีอาหารกินและยังสอนให้ลูกๆรู้จักช่วยทำมาหากิน

ซึ่งเด็กๆก็มีความสุขดีไม่มีใครเกเรเชื่อฟังแม่ทั้งหมด แค่ลูกๆฟังคำสั่งสอนผู้เป็นแม่แม่ก็ดีใจและพร้อมที่จะทำมาหากินเพื่อหารายได้มาดูแลลูกๆโดยที่ไม่ ร้องขอผู้ใดช่วยเหลือ และลูกทั้งหมด 10 คนที่เหลือในวัยเรียนก็พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันหมด

โดยที่ไม่มีการแยกย้ายไปอยู่กับใคร ผู้เป็นแม่ดูแลเองทั้งหมดหากพูดถึงรายได้ช่วงหน้าฝนก็จะขาดรายได้ในการจากกรีดยางพารา สภาพอากาศไม่อำนวยจึงต้องหารายได้ทางอื่นเพื่อมาเจือจูนลูกๆ โดยนาง หยุ่นก็จะคอยสอนลูกๆที่เหลือว่าไม่ให้เป็นภาระสร้างความเดือดร้อนให้ผู้เป็นแม่ได้เสียใจ และสังคมเดือดร้อนให้สร้างแต่ความดีมีน้ำใจไม่เบียดเบียนผู้อื่นความเชื่อมั่นว่าลูกๆทั้ง 10 คนที่เหลือเชื่อฟังคำพูดของตน

เด็กๆผู้ชายก็ไม่เกเรคอยออกหาอาหารกินเพื่อปากถือพี่น้องทั้งหลาย หาเก็บผักหาปลาเพื่อมาทำกับข้าวกินในบางมื้อที่ได้มาก็ประหยัดเงินไปได้บ้างบางวันหากวันไหนที่ขาดรายได้จากการรับจ้างก็ไม่ได้อดตาย ไม่ถึงขั้นว่ายากจนแสนลำบากเพราะว่าลูกคนโตทั้ง 5 คนก็ทำงานส่งรายได้มาให้แม่แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้าน

และค่ากินค่าอยู่ของน้องๆ และคอยเตือนเด็กๆที่เหลือว่างให้ดูพี่ๆเป็นตัวอย่างไม่ดื้อไม่ซนให้ตั้งใจทำงานตั้งใจเรียนเพื่อให้มีรายได้ เด็กๆก็เชื่อฟัง ปัจจุบันบ้านหลังที่อาศัยอยู่นั้นเป็นที่ดินของญาติพี่น้องที่ให้โป่งอาศัยเป็นญาติบ้านใกล้เรือนเคียงกันตนเองไม่มีทรัพย์สินอะไรจะให้ลูกๆ

ก็ให้ทางลูกเติบโตไปมีรายได้ก็คอยสร้างในอนาคต และหากว่ามีรักใหม่อีกครั้ง ก็จะไม่มีลูกคนที่ 16 อีกแล้วคงจะพอแค่ 15 คนแต่ก็ไม่ได้หวังจะให้ใครมาดูแลลูกๆเพราะตนเองดูแลได้ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างมีความสุขยืนด้วยลำแข้งของตัวเองสู้อย่างเดียวให้อดทนเข้มแข็งผ่านอุปสรรคไปทุกอย่างให้ได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทางเข้า gclub ใหม่

สาวเลิกแฟนเพราะจน 6ปีผ่านไปน้ำตาไหล ฝ่ายชายกลายเป็นรวย

เมื่อวันที่ 26 เดือนธันวาคม  ปีพ.ศ 2566 โดยโรคออนไลน์ของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเธอได้โพสต์เอาไว้โดยเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เธอได้เจอ  ซึ่งเจ้าของเรื่องที่นำข้อมูลมาโพสต์นั้นเป็นหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในมณฑลอานฮุย 

โดยภายหลังจากที่เรื่องราวของหญิงสาวรายนี้ถูกเปิดเผยในโลกออนไลน์ก็ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก  ซึ่งส่วนใหญ่กระแสนั้นตีกลับไปทางหญิงสาว 

เรื่องราวของหญิงสาวชาวจีนรายนี้เธอมีการเล่าเรื่องว่าเธอนั้นมีแฟนที่คบหากันมานานและทั้งคู่ก็ถือว่าเป็นรักแรกของกันและกันโดยทั้งคู่ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันและเคยพูดถึงเรื่องการแต่งงานกันด้วย  

อย่างไรก็ตามความฝันของเธอไม่เป็นความจริงเนื่องจากว่าครอบครัวของเธอไม่ชอบฝ่ายชาย

เพราะเห็นว่าฝ่ายชายนั้นมีฐานะยากจนดังนั้นครอบครัวเธอจึงไม่ยอมยกเธอให้แต่งงานกับฝ่ายชายเพราะฝ่ายชายไม่สามารถหาสินสอดมาจ่ายตามที่ครอบครัวของเธอร้องขอได้ ดังนั้นหญิงสาวรายนี้จึงได้ตัดสินใจทำตามครอบครัวด้วยการเลิกคบกับฝ่ายชายและหยุดการติดต่อกันทุกช่องทาง 

ภายหลังจากที่หญิงสาวรายนี้ตัดสินใจเลิกกับแฟนหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินทางออกจากบ้านเกิดของตนเองไปทำงานอยู่ต่างเมืองเป็นระยะเวลานานกว่า 6 ปีหลังจากนั้นเธอได้มีโอกาสเดินทางกลับมาเมืองที่เธอเคยอาศัยอยู่เพื่อมาพบกับเพื่อนๆสมัยเก่า

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เธอนั้นต้องตะลึงนั่นก็คือเมื่อเธอมีโอกาสเดินผ่านไปที่บ้านของแฟนเก่าของเธอที่เคยเลิกลากันไป

จากบ้านที่เก่าซมซ่อทรุดโทรมปรากฏว่าถูกสร้างขึ้นมาใหม่กลายเป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โตโอ่อ่าและหากดูบ้านหลังอื่นๆที่อยู่รอบบ้านของแฟนเก่าของเธอปรากฏว่าบ้านของแฟนเก่าของเธอนั้นหรูหราและใหญ่โตที่สุดในย่านนั้นเลยทีเดียว 

ภายหลังหญิงสาวรายนี้ได้มีการสอบถามเพื่อนเพื่อนในหมู่บ้านจึงทำให้ทราบว่าบ้านหลังที่ใหญ่ที่สุดและดูหรูหราเหมือนกับคฤหาสน์นั้นเป็นบ้านของแฟนเก่าของเธอเองซึ่งปลูกอยู่กับภรรยาของเขาเนื่องจากว่าปัจจุบันอดีตแฟนหนุ่มของเธอนั้นประสบความสำเร็จในชีวิตเขามีฐานะที่ร่ำรวยขึ้น

หลังจากที่เลิกรากับเธอไปเพราะเขาเสียใจเป็นอย่างมากจึงได้ตัดสินใจออกจากบ้านเกิดและไปทำงานที่เมืองใหญ่ท้ายที่สุดก็ได้ทำธุรกิจและพบรักกับภรรยาคนปัจจุบันจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนรวยขึ้นมา 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้หญิงสาวรายนี้เสียใจที่สุดนั่นก็คือหลังจากที่เธอเลิกลากับอดีตแฟนหนุ่มไปเธอก็ยังไม่มีแฟนใหม่และปัจจุบันเธอก็ยังคงเป็นโสดอยู่และก็ไม่มีเงินเก็บที่สามารถเทียบเท่ากับอดีตแฟนหนุ่มได้เลยซึ่งเรื่องนี้เธอได้แต่นึกเสียใจย้อนหลังที่ในอดีตนั้นเธอไม่น่าตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่มของเธอไป

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  บาคาร่า

ทนายแจง แม่แตงโมไม่สามารถเอาเงินประกัน 1 ล้านบาทของลูกกระติกมาใช้ได้

       ไม่สามารถเอาเงินประกัน  จากกรณีหลังจากที่แตงโมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกลงจากเรือขณะที่ไปล่องแม่น้ำเจ้าพระยากับเพื่อนอีกจำนวน 5 คนนั้นปรากฏว่าหลังจากที่มีการพบศพแตงโม

ก็มีกระแสการพูดถึงเกี่ยวกับมรดกของแตงโมว่าใครจะเป็นผู้ได้รับร่วมถึงทางนักแสดงสาวธัญญาเรศรามณรงค์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนที่แตงโมยังมีชีวิตอยู่เคยไปออกรายการของธัญญาเรศและทางรายการก็ได้มีการมอบประกันชีวิตให้ซึ่งในตอนนั้นแตงโมได้มีการเซ็นชื่อผู้รับมอบผลประโยชน์ก็คือลูกเลี้ยงของแตงโมนั่นก็คือน้องอีสเตอร์หรือลูกสาวใฝใ 0องกระติกผู้จัดการของแตงโมนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเด็นการเสียชีวิตของแตงโมนั้นยังเป็นสาเหตุที่คลุมเครือและผู้ที่สังคมให้ความสนใจ

และมองว่ามีความผิดจากการเสียชีวิตของแตงโมในครั้งนี้ก็คือผู้จัดการส่วนตัวของแตงโมนั่นก็คือกระติกซึ่งเป็นแม่ของลูกบุญธรรมของแตงโมนั่นเองเพราะกระติกไม่ได้สนใจดูแลดาราในสังกัดของตนเองเนื่องจากว่ามัวแต่ถ่ายรูปบนเรือส่งผลทำให้นักแสดงสาวเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

        อย่างไรก็ตามมีการพูดถึงเรื่องเงินประกันที่หลังจากนี้แล้วทางด้านบริษัทประกันจะมีการฟอกเงินประกันให้กับผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มันก็คือน้องอินเตอร์ซึ่งเป็นลูกของกระติกนั่นเองซึ่งเรื่องนี้ทางคุณแม่ของแตงโมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการโหนกระแสว่าทางคุณแม่ไม่ยินดีที่จะมอบเงินดังกล่าวให้กับน้องอีสเตอร์เพราะเกรงว่ากระติกจะเอาไปใช้งานเองโดยคุณแม่ยืนยันว่าจะมีการประสานงานกับทนายความทำการอายัดเงินประกันดังกล่าว

       อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทนายความหลายคนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเงินประกันนั้นมีผลทางกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากว่าแตงโมได้มีการเซ็นเอกสารและมีพยานรับทราบดังนั้นเงินประกันจะต้องถูกโอนไปให้กับน้องอินเตอร์ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์และคุณแม่ของแตงโมจะไม่สามารถทำการอายัดเงินดังกล่าวได้

         นอกจากนี้แม่ของแตงโมยังไม่สามารถนำเงินประกัน 1 ล้านบาทที่น้องอีสเตอร์จะได้รับมาใช้ส่วนตัวได้อีกด้วยถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วถ้าหากบริษัทประกันมอบเงินให้กับน้องอีสเตอร์แล้วปรากฏว่ากระติกรู้สึกผิดกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโมอยากจะคืนเงิน 1 ล้านบาทให้กับแม่ของแตงโมก็ตามทางด้านศาลปกครองที่ดูแลผลประโยชน์ของเด็ก  ufabet ฝากเงิน ออโต้   จะไม่ยินยอมอย่างเด็ดขาดและถ้าหากใครนำเงินดังกล่าวไปใช้โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากทางศาลคุ้มครองเด็กก็จะถูกดำเนินคดีถือว่ามีความผิดทางกฎหมายเพราะเนื่องจากว่าปัจจุบันประเทศไทยมี พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กเอาไว้ ดังนั้นเงินจะส่งต่อมอบให้กับใครไม่ได้ ยกเว้นเอาไว้ให้น้องอิสเตอร์ในตอนโต

รัสเซีย ประกาศห้ามมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กและคามาลา แฮร์ริส เข้าประเทศ

       ประกาศห้ามมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก  นับตั้งแต่ที่ประเทศรัสเซียเริ่มเข้าไปรุกรานทำสงครามกับประเทศยูเครนก็ถูกหลายชาติจากทั่วโลกทำการแอนตี้

ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีการระงับการสั่งซื้อสินค้าจากทางประเทศรัสเซียรวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆในประเทศรัสเซียที่เป็นโซเชียลที่ผู้บริหารเป็นของชาติตะวันตกนั้นต่างก็พากันปิดให้บริการชั่วคราว ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนของชาติตะวันตกว่าจะไม่สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในครั้งนี้

       ปรากฏว่าทางด้านประเทศรัสเซียเองก็ออกมาโต้ตอบการกระทำของชาติตะวันตกเช่นเดียวกันซึ่งล่าสุดทางการของประเทศรัสเซีย ซึ่งประกาศออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศได้มีการออกมาประกาศห้ามคนดังในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ให้เข้าประเทศรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นคนดังทางด้านนักธุรกิจหรือแม้แต่ทางด้านการเมืองก็ตามซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และ คามาลา แฮร์ริส นั่นเอง 

       อย่างไรก็ตามสำหรับรายชื่อที่กระทรวงการต่างประเทศของประเทศรัสเซียได้มีการเปิดเผยชื่อออกมาว่ามีการสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศได้นั้นมีหลายแวดวงด้วยกัน  ส่วนใหญ่นั้นชื่อของบุคคลที่ถูกประกาศห้ามไม่เข้าประเทศรัสเซียนั้นจะเป็นบุคคลในระดับสูงของประเทศสหรัฐอเมริการวมถึงสื่อมวลชนที่ประเทศรัสเซียมองแล้วว่ามีการสร้างกระแสปลุกข่าวลือเขียนข่าวที่สร้างให้ผู้คนทั่วโลกเกิดความหวาดกลัวต่อประเทศรัสเซีย 

         สำหรับรายชื่อที่ถูกเปิดเผยเป็นอันดับต้นๆที่กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้มีการประกาศออกมาก็คือรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คามาลา แฮร์ริส

  ซึ่งเธอนั้นนับเป็นรองประธานาธิบดีที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเองอย่างไรก็ตาม  CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook หรือเมก้าก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าประเทศรัสเซียเช่นเดียวกันซึ่งเขาก็คือ  มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นั่นเอง นอกจากนี้ยังมี CEO ของลิงค์อินที่ชื่อ ไรอัน  โรสแลนสกี   ก็ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศรัสเซียเช่นเดียวกัน 

      อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียนั้นไม่ได้มีการห้ามเข้าประเทศเฉพาะผู้นำทางการเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่ทุกคนที่เป็นคนของประเทศสหรัฐอเมริกาและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทำสงครามของรัสเซียก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าประเทศเช่นเดียวกันอย่างเช่น มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น CEO ของโซเชียลมีเดียแต่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็เป็นคนแรกๆ  ที่ออกมาต่อต้านประเทศรัสเซียโดยตรงเกี่ยวกับเรื่องของการส่งทหารเข้าไปรุกรานประเทศยูเครน  และอาจะเป็นซีอีโอคนแรกที่ปิดแพลตฟอร์มโซเชียลในรัสเซียด้วยนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามผมแม้ว่า platform ใน Social Media ของต่างประเทศทั้งหมดจะถูกปิดไม่ให้ใช้งานในประเทศรัสเซียแต่  CEO ของ Google และ Twitter กับไม่มีรายชื่อที่กระทรวงการต่างประเทศสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    เครดิตฟรี gclub

ศาลสั่งจำคุก 4 เดือนปรับ 6,000 บาทกรณีลุงพลครอบครองไม้หวงห้าม 

กรณีลุงพลครอบครองไม้หวงห้าม  เชื่อว่าหลายคนยังคงจำลุงพลจากข่าวกรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงชมภู่ได้เป็นอย่างดีซึ่งรวมพลนั้นเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี

และอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาลอย่างไรก็ตามนอกเหนือจากคดีการฆ่าน้องชมพู่แล้วก่อนหน้านี้ไม่นานลงทุนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเมื่อมีการไปตั้งศาลเจ้าแม่โสรภีภายในเขตพื้นที่บ้านของตนเองโดยภายในศาลเจ้าแม่นั้นได้มีการนำไม้ขอนหนึ่งมาวางเอาไว้

โดยอ้างว่าเป็นไม้ตะเคียนทองแต่เมื่อมีการเข้าไปตรวจสอบพบว่าไม้ดังกล่าวนั้นเป็นไม้ต้องห้ามเป็นไม้มะค่าแต้ซึ่งไม่สามารถที่จะครอบครองได้จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งจับกุมและต่อสู้กันในชั้นศาล

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2565 ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้มีการประกาศคำพิพากษาในคดีความครอบครองไม้มะค่าแต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งไม้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไม้หวงห้ามไม่สามารถนำมาครอบครองเป็นของตนเองได้โดยผลของการตัดสินนั้นปรากฏว่าสารยืนยันให้ลุงพลจำคุกเป็นระยะเวลานาน 4 เดือนทั้งนี้ยังต้องเสียเงินค่าปรับอีกเป็นจำนวนเงิน 6666 บาท 66 สตางค์อย่างไรก็ตามสำหรับไม้มะค่าแต้ซึ่งอยู่ที่บ้านของลุงพลนั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ริบไม้ของกลางเอาไว้ส่วนการติดคุกนั้นสามารถทำการรอลงอาญาได้นาน 1 ปี 

         อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ลุงพลยืนยันในชั้นศาลว่าตนเองนั้นไม่รู้ว่าไม้ที่ครอบครองอยู่นั้นเป็นไม้ต้องห้ามและเป็นไม้มะค่าแต้เพราะมองเห็นว่าขอนไม้ดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นไม้ตะเคียนทองเนื่องจากว่าลักษณะของไม้นั้นมีสีเหลืองทองและไม้นั้นก็ไม่มีการตัดมาจากในป่า

แต่ไม้ดังกล่าวนั้นลอยมาตามน้ำมาติดคลองอยู่แถวบริเวณข้างบ้าน  ufabet     ดังนั้นเมื่อเห็นไม้ติดมาแล้วมีความสวยและคิดว่าเป็นไม้ตะเคียนจึงนำมาวางไว้ที่บริเวณบ้านหลังจากนั้นชาวบ้านก็พากันมากราบไหว้ขอพรกับขอนไม้ดังกล่าวและหลายคนประสบความสำเร็จตามที่ขอจึงมีการนำดอกไม้ธูปเทียนพวงมาลัยน้ำแดงมาถวายรวมถึงตั้งเป็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนโสรภีนั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามหลังจากฟังผลพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะข่าวก็ได้เข้าไปทำข่าวซึ่งจากสถานการณ์โดยรวมเห็นว่าลุงพลในไม่ได้มีการรู้สึกเครียดกับผลของคำพิพากษาอย่างไรเพราะหลังจากที่ฟังผลเสร็จแล้วก็ยังมีการมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารรวมถึงพูดคุยกับบรรดาแฟนคลับที่เดินทางมาให้กำลังใจ อีกด้วย 

       สำหรับลุงพลนั้นเดิมทีเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปเท่านั้นแต่เมื่อมีข่าวการเสียชีวิตของน้องชมพู่ลุงพลจึงกลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกออนไลน์มีคนติดตามการใช้ชีวิตของลุงพลกลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนทั้งที่ลุงพลนั้นคือผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 

แซน เข้ารายงานตัวครั้งแรก ตอบสื่อเหนื่อยกับเรื่องนี้มากอยากให้จบเร็วๆ 

จากกรณีที่แซนวิสารพัด  ได้ตกเป็นผู้ต้องหาว่าทำการโดยประมาททำให้แตงโมเสียชีวิต 

แซน เข้ารายงานตัวครั้งแรก ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมาเดือนกว่าแล้วแต่แซนเพิ่งเข้ามารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาเป็นครั้งแรก โดยมีการเดินทางมาที่สถานีตำรวจ สภ. เมืองนนทบุรี  เดินทางมาพร้อมกับทนายความหมายถึงสถานีตำรวจเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13:30 น    ซึ่งนักข่าวที่ทราบเรื่องต่างก็พอกันเดินทางมารอตั้งแต่เช้าเพื่อรอทำข่าว 

       อย่างไรก็ตาม  แซน พร้อมกับทนายความได้เข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ระยะเวลาในการพูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นทางด้านทนายความก็ได้มีการเข้ายื่นเรื่องกับทางเจ้าหน้าที่ชั้นสอบสวนเพื่อทำการขอประกันตัวแทนโดยวงเงินที่มีการยื่นขอประกันตัวนั้นอยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท 

           ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการอนุญาตให้แซนนั้นประกันตัวออกไปได้และเดินทางกลับบ้านได้โดยมีการกำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่าจะต้องเดินทางกลับมารายงานตัวกับทางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภเมืองนนทบุรีทุกๆ 7 วันโดยนับเป็นวันที่ 10 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 นี้เป็นครั้งแรก  และครั้งที่ 2 พร้อมกับทนายความจะต้องเดินทางมาที่สถานีตำรวจอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 17 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 นี้ 

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่ นาย แซน วิศาพัช ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จเรียบร้อยและทำการประกันตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางออกมาเจอกับบรรดานักข่าวที่รออยู่ทั้งนี้ได้มีการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวถึงการพูดคุยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยทั้งแซงยืนยันว่าเรื่องราวที่มีการเล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังนั้นเป็นเรื่องจริงทุกประการไม่เคยมีการแต่งเสริมหรือได้รับการแนะนำมาจากกุนซือคนไหนและแซนเองไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนหรือเป็นกังวลใจว่าตนเองนั้นจะถูกดำเนินคดีเพราะเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง

             นอกจากนี้ยังมีการพูดพาดพิงไปถึงกุนซือที่มีข่าวว่าเป็นคนแนะนำแก๊ง 5 คนบนเรือเป็นคนวางแผนการทุกอย่างโดยกุนซือคนดังกล่าวนั้นชื่อทนายเอ็มซึ่งทางแซนก็เล่าให้ฟังว่าได้มีการไปคุยกับทนายเอ็มจริงในวันแรกที่เกิดเหตุแต่คุยกันแป๊บเดียวและไม่ได้มีการคุยรายละเอียดอะไรมาก

   อย่างไรก็ตาม แซน ยืนยันว่าอยากจะให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจบลงเร็วๆเพราะรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงแก๊งคนบนเรือทั้ง 5 คนด้วยว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แตงโมเสียชีวิตนี้ทุกคนก็ไม่สามารถที่จะมาพบปะพูดคุยกันได้เหมือนเมื่อก่อนโดยการยืนยันว่าการที่แตงโมเสียชีวิตไปนั้นแซนเองก็เสียใจและไม่ได้มีการอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้วทุกคนก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ 

 

สนับสนุนโดย  gclub ทดลองเล่นฟรี

โรบินฮู้ดเตรียมรับฟ้องร้อง Rider หัวร้อนเหตุเพราะยืมไอดีเพื่อนมารับงาน 

      โรบินฮู้ดเตรียมรับฟ้องร้อง Rider หากยังจำกันได้จากกรณีอุบัติเหตุพนักงาน Rider ขับรถชนคนบนทางเท้าจนถูกแจ้งความดำเนินคดี

เพราะเนื่องจากว่าจะมีการขับรถเฉี่ยวชนบนทางเท้าแล้วยังได้มีการจอดรถลงมาทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายคนบนทางเท้าอีกด้วยซึ่งเบื้องต้นนั้นทางพนักงาน Rider ได้ออกมาขอโทษคนในสังคมและขอโทษคนที่ตัวเองชอบปล่อยแล้วและเตรียมที่จะต่อสู้ทางด้านกฎหมายแล้ว

      อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลับไม่ได้จบเพียงแค่พนักงาน Rider คนดังกล่าวจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำความผิดกฎหมายด้านการจราจรเพียงเท่านั้นเพราะเนื่องจากว่าในช่วงที่มีการก่อเหตุหัวร้อนชกต่อยคนบนทางเท้าหรือขับรถเฉี่ยวชนบนทางเท้านั้นปรากฏว่าได้มีการสวมใส่ชุดพนักงานส่งอาหารชื่อดังบริษัทหนึ่ง

         โดยในขณะที่กระทำความผิดนั้นได้ถูกกล้องวงจรปิดถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ได้  ufabet     ทั้งหมดและภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์ทำให้คนเล่นโซเชียลนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากได้มีการติดต่อไปยังบริษัทส่งอาหารชื่อดังเพื่อให้ลงโทษพนักงาน Rider หัวร้อนคนดังกล่าวด้วย  สำหรับบริษัทส่งอาหารที่ Rider หัวร้อนสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มก็คือบริษัทโรบินฮูด 

        หลังจากเรื่องนี้เป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์และตามสื่อต่างๆปรากฏว่าทางบริษัทโรบินฮูดได้ออกแถลงการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยมีการเปิดเผยออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทโรบินฮูดไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการตรวจสอบแล้วว่า Rider หัวร้อนคนดังกล่าวเป็นใครซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล ID ปรากฏว่าชื่อของพนักงานที่รับงานในช่วงเวลาดังกล่าวกับชื่อ ID ที่สมัครไว้กับทางโรบินฮูดนั้นคนละชื่อกัน

         ซึ่งทางบริษัทโรบินฮูดได้มีการเช็คข้อมูลพบว่าคนที่ลงทะเบียนกับทางโรบินฮู้ดได้ให้เพื่อนยืมไอดีไปใช้ในการรับงานซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามเงื่อนไขของการลงทะเบียนการทำงานกับทางโรบินฮู้ดอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับทางบริษัทโรบินฮู้ดเป็นอย่างมากดังนั้นทางบริษัทโรบินฮู้ดจึงจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งจากเจ้าของไอดีที่ถูกข้อมูลไว้กับทางโรบินฮูดเองและเพื่อนหัวร้อนที่ยืมชุดของพนักงานของบริษัทโรบินฮูดไปใช้ในการรับงานซึ่งทั้งคู่นั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

         อย่างไรก็ตามทางบริษัทโรบินฮู้ดยืนยันว่าทางบริษัทจะมีการอบรมพนักงานของบริษัทโรบินฮู้ดทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตและถูกต้องปฏิบัติการตามกฎหมายทางจราจรอย่างเคร่งครัดและถ้าหากใครมีการกระทำความผิดก็จะมีการลงโทษอย่างหนักด้วยเช่นเดียวกัน 

พี่ม.6 ถูกเรียกค่าทำขวัญ 50,000 บาทหลังตืบน้อง ม. 1 บาดเจ็บ 

 

        พี่ม.6 ถูกเรียกค่าทำขวัญ  ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนมได้เกิดเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนชั้น ม.  6 ทําร้ายร่างกายรุ่นน้องซึ่งอยู่เพียงแค่ชั้นหนึ่งเท่านั้นจนได้รับบาดเจ็บ

โดยทางโรงพยาบาลต้องเย็บแผลบริเวณปากที่แตกให้กับเด็กม 1 จำนวนสูงถึง 5 เข็มส่วนสาเหตุที่พี่โมโหทำร้ายน้อง ม.1 นั้นมาจากการที่เด็ก ชั้น ม.1  ได้เตะตะกร้อกระเด็นไปใส่รถมอเตอร์ไซค์ของรุ่นพี่ชั้นม 6 ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจ

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นภายในบริเวณโรงเรียนซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นช่วงที่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นรุ่นพี่ชั้นม 6 นั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ปรากฏว่ามีคุณครูเดินมาบอกให้ไปดูรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองเนื่องจากว่ามีรุ่นน้องมาเล่นตะกร้ออยู่ใกล้กับที่จอดรถมอเตอร์ไซค์

  และเมื่อรุ่นพี่ม 6 ไปเห็นว่ามีรุ่นน้องมาเล่นตะกร้อใกล้แล้วของตนเองจึงตั้งใจที่จะนำรถมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่อื่นแต่ปรากฏว่ารุ่นน้องได้มีการเตะตะกร้อไปโดนเฟรมรถมอเตอร์ไซค์ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจเพราะเป็นคนรักรถมอเตอร์ไซค์มากจึงได้ทำร้ายรุ่นน้องจนได้รับบาดเจ็บ

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่ครอบครัวของเด็กนักเรียนชั้น ม.  1 ทราบเรื่องจึงได้นำใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความที่ สภ. ศรีสงครามในข้อหาทำร้ายร่างกายและมีการเรียกเงินค่าทำขวัญเป็นจำนวนทั้งสิ้น 50,000 บาท 

         สำหรับครอบครัวของรุ่นพี่ชั้นม 6 หลังจากที่รู้ว่าหลานของเองถูกแจ้งความดำเนินคดีและถูกเรียกค่าทำขวัญเป็นเงินสูงถึง 50,000 บาทก็ออกมายอมรับว่าไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าทำขวัญให้คงต้องมีการไปพูดคุยตกลงเจรจากันไหมที่โรงพักอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากว่าเด็กนักเรียนชั้นม 6 นั้นอาศัยอยู่กับตาและยายซื้อยายไม่ได้มีเงินในการเลี้ยงชีพตนเองมีแม่ของนักเรียนชั้นม 6 ที่ทำงานอยู่กรุงเทพส่งมาให้ใช้เดือนละเพียงแค่ 3000 บาทเท่านั้น

          ในขณะที่ผู้เป็นตาก็เป็นคนพิการไม่สามารถทำงานได้มีเงินใช้จากเงินเบี้ยชราและเงินคนพิการอีกอย่างละ 6,000 บาท    ทางเข้า gclub มือถือ     ดังนั้นในแต่ละเดือนครอบครัวของเด็กนักเรียนชั้นม 6 จึงมีเงินค่าใช้จ่ายเพียงแค่ประมาณเดือนละ 4,000 บาทเท่านั้นแล้วไม่สามารถหาเงินสูงถึง 50,000 บาทไปจ่ายค่าทำขวัญใดๆได้ทางคุณยายของเด็กนักเรียนชั้นม 6  กล่าวว่าตนเองและหลานยอมรับผิดทุกอย่าง

          สำหรับทางด้านเด็กนักเรียนชั้นม 6 นั้นหลังจากที่รู้ว่าตนเองถูกดำเนินคดีและยังถูกเรียกร้องเงินค่าทำขวัญสูงถึง 50,000 บาทก็รู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยยอมรับว่าตนเองนั้นทำผิดจริงเพราะว่าขาดสติเนื่องจากว่าเป็นคนที่รักรถมากเพราะเป็นคนหาเงินมาซื้อรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวและเป็นคนผ่อนเองทั้งหมด

         อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้คงต้องรอดูว่าทางด้านผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นจะมีการยอมความลดจำนวนค่าทำขวัญลงหรือไม่แต่เรื่องนี้สามารถเป็นอุทาหรณ์ได้อย่างหนึ่งว่าถ้าหากว่าอารมณ์ร้อนจนขาดสติสิ่งที่ตามมานั้นอาจจะเลวร้ายกว่าดังนั้นการทำทุกอย่างควรที่จะมีสติในการตัดสินแก้ไขปัญหาอาจจะเป็นการดีที่สุด 

เด็กนับ 10 ร่างกระแทกพื้นจากเหตุสไลเดอร์สูง 8 เมตรในสวนน้ำถล่ม 

ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่เมือง สุราบายา  โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่สวนน้ำแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า สวนน้ำ Kenjeran Park   

 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 13:00 น มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวในสวนน้ำดังกล่าวเป็นจำนวนมากและนักท่องเที่ยวนั้นก็ไปใช้บริการสไลเดอร์น้ำยักษ์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่พากันไปเล่นสไลเดอร์

อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในระหว่างที่มีการเล่นน้ำกันอยู่นั้นสไลเดอร์น้ำยักษ์ได้มีการพังถล่มลงมาซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมากเนื่องจากว่ามีคนกำลังเล่นสไลเดอร์ยักษ์นี้เป็นจำนวนมากโดยมีเด็กที่กำลังเล่นสไลเดอร์ยักษ์นี้มากกว่า 10 ชีวิตเลยทีเดียว

       เด็กนับ 10 ร่างกระแทกพื้น  เบื้องต้นจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นพบว่าในระหว่างช่วงประมาณ 13:00 น ถึง 13:30 น นั้นมีนักท่องเที่ยวพากันไปเล่นตรงบริเวณสไลเดอร์ยักษ์ในสวนน้ำกันเยอะมากจนเกินไปซึ่งทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วด้านบนของตัวสไลเดอร์หลังจากนั้นก็เกิดมีการแยกตัวตรงบริเวณตรงกลางของสไลเดอร์หลังจากนั้นก็ถล่มลงมานักท่องเที่ยวที่อยู่ด้านบนร่วงลงมาเป็นจำนวนมากร่างหลายคนนั้นกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บมีเสียงนักท่องเที่ยวกรีดร้องโหยหวนด้วยความตกใจและตื่นกลัว

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นสามารถบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของทางสวนน้ำนั่นเองซึ่งจะได้เห็นเหตุการณ์ว่ามีคนร่างกระแทกลงมาจากด้านบนลงสู่ด้านล่างเยอะมากและด้วยความสูงของสไลเดอร์ที่สูงถึงเกือบ 10 เมตรทำให้ผู้ที่ตกลงมานั้นได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสเลยทีเดียวมีผู้ใหญ่ประมาณ 10 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

         บางคนนั้นกระดูกหักและบางคนนั้นมีแผลฉีกขาดและอีกหลายคนที่มีปัญหาบาดเจ็บที่ระบบสมองนอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจเพราะหลายคนนั้นเกิดความหวาดกลัวเหตุการณ์ที่สไลเดอร์ยักษ์นั้นถล่มลงมาอย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอินโดนีเซียจะได้มีการเข้าไปทำการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งในขณะนี้ได้มีการประกาศปิดสวนน้ำแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าสไลเดอร์ดังกล่าวนั้นมีการเปิดใช้งานมานานแล้วและมีการซ่อมบำรุงเมื่อตั้งแต่ 9 เดือนที่แล้วซึ่งถือว่าเป็นการซ่อมบำรุงนานแล้วและด้วยอายุการใช้งานกับสภาพอากาศในปัจจุบันก็อาจจะทำให้สไลเดอร์นั้นเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลาและเมื่อมีคนมาเล่นเป็นจำนวนมากจึงไม่สามารถแบกรับน้ำหนักจำนวนผู้เล่นได้จึงทำให้เกิดการพังถล่มลงมาในครั้งนี้นั่นเอง

 

สนับสนุเนื้อหาต่างๆโดย  ufabet

ความในใจของอดีตพยาบาล  ทั้งที่รักอาชีพนี้แต่ต้องตัดสินใจลาออก 

เมื่อสมัยที่เรายังเป็นเด็กเวลาที่ผู้ใหญ่ถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรเด็กส่วนใหญ่มักจะตอบว่าเป็นครูเป็นหมอแล้วก็เป็นพยาบาล

        ความในใจของอดีตพยาบาล  รวมถึงทหารตำรวจเนื่องจากว่าเด็กๆหลายคนมองว่าอาชีพเช็คด่านไปข้างต้นนั้นเป็นอาชีพที่มีเกียรติ  และเป็นอาชีพที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้คนได้ที่สำคัญเป็นอาชีพที่มั่นคง  เราสามารถทำงานในอาชีพดังกล่าวได้จนกว่าจะเกษียณอายุเลยทีเดียว

        อย่างไรก็ตามปัจจุบันอาชีพหมอและพยาบาลเป็นอาชีพ  ที่หลายคนไม่ค่อยจะใฝ่ฝันอยากจะเป็นกันแล้ว  เพราะถึงแม้ว่ายังคงเป็นอาชีพที่มีเกียรติแต่เป็นอาชีพที่ไม่มีอิสระในการดำเนินชีวิต   จะเห็นได้จากอาชีพคุณหมอและพยาบาลนั้นเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา   ยิ่งถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน  

          ยกตัวอย่างว่าช่วงที่ covid-19  ระบาดใหม่ใหม่   หมอและพยาบาลไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวหรือเห็นหน้าคนในครอบครัวเลยทุกคนต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอปฏิบัติหน้าที่และทำงานแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้   เนื่องจากว่าหมอและพยาบาลนั้น  ค่อนข้างขาดแคลน

 ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาลต่างก็ทำงานหนัก

          ที่สำคัญถ้าหากติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่าอาชีพหมอและพยาบาลนั้นต้องรองรับอารมณ์ ทั้งจากของคนไข้ที่มารอรับบริการซึ่งอาจจะได้รับบริการที่ล่าช้ารวมถึงยังต้องรองรับอารมณ์ของญาติของคนไข้ที่เห็นว่าหมอพยาบาลนั้นไม่ค่อยสนใจญาติของตนเองก็มักจะออกมาด่าทอต่อว่าหรือบางทีก็ทำร้ายหมอและพยาบาลเลยก็มี 

           อย่างเช่นหญิงสาวรายหนึ่งเธอได้ออกมาโพสต์เรื่องราวการระบายความในใจของเธอจากการที่เธอนั้นตัดสินใจที่จะลาออกจากการเป็นพยาบาลทั้งที่เป็นอาชีพที่เธอรักมากและเป็นอาชีพที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆเธออุตส่าห์เล่าเรียนจนจบพยาบาลและมีงานทำแต่เธอกลับพบว่าเมื่อเธอมาทำงานในอาชีพพยาบาลชีวิตของเธอนั้นก็เหมือนกับแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพราะเธอต้องเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนจากคนไข้และญาติของคนไข้

        นอกจากนี้เธอยังไม่มีเวลาเป็นของตนเองและไม่มีเวลาให้กับพ่อแม่เทศกาลต่างๆ    สล็อต ufabet เว็บตรง    เธอไม่เคยได้หยุดไปเที่ยวกับครอบครัวและไม่เคยได้เห็นหน้าญาติเพราะต้องทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างเดียวที่สำคัญไม่ว่าเธอจะแต่งกายแบบไหนก็จะถูกตำหนิอยู่บ่อยครั้งเพราะต้องรักษาเกียรติของพยาบาลซึ่งบางครั้งเธอก็มองว่าเธออยากจะทำอะไรที่เธออยากทำเหมือนกับคนทั่วไปบ้างอย่างเช่นย้อมสีผมหรืออยากใส่ชุดว่ายน้ำเวลาไปเที่ยวแต่ก็ทำไม่ได้ดังนั้นเพื่อความสุขของเธอเองที่จะมีในอนาคตเธอจึงตัดสินใจที่ลาออกจากการเป็นพยาบาลและมาใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป